การเปรียบไก่หาคู่นั้นมีองค์ประกอบหลายอย่างที่เราต้องดูให้ดี ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เปรียบแต่ก็ไม่ควรเสียเปรียบ จะต้องรู้เขารู้เรา ไม่ได้มองแค่ไก่คนอื่นอย่างเดียวแต่เราต้องรู้ไก่ของตนเองด้วยว่าไก่เราเป็นอย่างไร มาดูเทคนิคบางอย่างในการหาคู่เปรียบในสนามกัน เชิงชน ลีลา ก่อนที่เราจะไปมองไก่คนอื่นว่ามีลักษณะอย่างไร เราต้องรู้จักไก่ของเราก่อนว่าเขามีเชิงชน มีลีลาอย่างไร เขาชอบตีลูกไหน เช่น ถ้าไก่เราชอบตีคาง ในสนามมีตัวที่ดูแล้วใกล้เคียงกับเราอยู่สองตัว ตัวแรกขนคอขนคางไม่มี ส่วนตัวที่สองขนหัวไม่มี การเลือกก็ต้องเลือกตัวที่ขนคางไม่มี แต่ถ้าไก่เราชอบตีหัวก็เลือกตัวที่ขนหัวไม่มี เพราะตำหนิของไก่นั้นจะบ่งบอกว่าเขาไม่ถนัดเก็บส่วนไหน ไก่ที่เก่งนั้นเขาจะไม่ยอมให้คู่ต่อสู้ตีได้ง่ายๆ แต่ถ้าเป็นตำหนิปลอมที่คนเลี้ยงเขาทำขึ้นมา อันนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้ วิธีสังเกตก็ให้ดูที่ผิวของไก่ถ้าไก่โดนตีขนหลุดมาผิวส่วนนั้นจะแลดูหนากร้าน แต่ถ้าผิวแลดูสวยไม่มีตำหนิก็อาจจะถอนหลอกมาก็แล้วแต่จะพิจารณากัน แต่ถ้ามองไม่ออกว่าถอนจริงหรือหลอกก็ไม่ควรเล่นยิ่งตัวไหนตีแพงยิ่งน่ากลัว ขนาดของลำตัว ไก่จะหาตัวที่มีขนาดเท่ากันเลยนั้นหายาก ในการเปรียบนั้นก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตัวเล็กตัวใหญ่ แต่เมื่อจับดูแล้วขนาดพอฟัดพอเหวี่ยงกันสามารถตีกันได้ก็พอแล้ว แต่ว่าถึงแม้ลำตัวเราจะไม่ได้เปรียบแต่ก็อย่าให้เสียเปรียบมาก เกรด ราคา ก่อนที่จะเลือกคู่เราต้องรู้เกรดรู้ราคาของไก่เราก่อน เช่น ถ้าไก่ของเราเป็นไก่ที่พอเล่นได้ไม่ได้มีทีเด็ดอะไรมากมาย สามารถตีได้เพียงสามพันห้าพันเท่านั้น แต่ไปเจอตัวที่บ่าหัวตัวเท่าแล้วมีตำหนิที่เข้าทางเรา แต่เขาจะตีหลายหมื่นนั่นแสดงว่าแข้งของเราไม่ถึงเขาแน่นอน เพราะต้องเข้าใจว่าราคาเป็นตัววัดความแม่นของไก่แต่ละตัวนั่นเอง ในการเล่นควรที่จะเริ่มเล่นราคาถูกก่อน ถ้าเราชนะค่อยขยับเพิ่มราคาขึ้นในไฟท์ต่อไป อย่าพึ่งมั่นใจไก่เราเกินไปว่าเก่งแล้วเริ่มต้นราคาแพง ก็เป็นหลักในการเปรียบไก่หาคู่ในสนามเพื่อที่เราจะไม่เสียเปรียบ […]
Tag Archives: คนรักไก่ชน
เคยสังเกตกันไหมว่าในการเลี้ยงไก่ออกชนของแต่ละซุ้มแต่ละฟาร์มนั้นจะมีส่วนที่แตกต่างกันบ้าง โดยเฉพาะเรื่องของการลงขมิ้น บางซุ้มก็ใช้ขมิ้นแต่บางซุ้มก็ไม่ใช้เลย ซึ่งเราก็อาจจะได้ยินเซียนรุ่นเก่าบอกต่อกันมาว่าเลี้ยงไก่ชนต้องใช้ขมิ้น ในการจะใช้ขมิ้นกับไก่นั้นก็แล้วแต่ความชอบและเหตุผลของแต่ละคนซึ่งเหตุผลนั้นก็มีดังนี้ เหตุผลที่ต้องลงขมิ้นไก่ของเซียนที่ชอบ คือ ขมิ้นมีสรรพคุณในการช่วยสมานแผล หลังจากที่ไก่โดนตีมาอาจจะมีแผลจึงนำขมิ้นมาทาเพื่อช่วยดูดซับน้ำเหลืองจากแผล และทำให้แผลแห้งไวด้วย ไก่ที่ลงขมิ้นจะอาบน้ำง่าย เพราะในขมิ้นนั้นจะมีปูนแดงผสมอยู่ด้วย เมื่อขนไก่โดนปูนแดงเข้าไปขนของเขาที่เคยมีความมันก็จะถูกกัดโดยปูนแดงทำให้น้ำซึมเข้าขนเร็ว จึงอาบน้ำได้ง่าย รู้สึกว่าไก่ผิวพรรณดี ถ้าลงขมิ้นให้ไก่บ่อยๆไก่จะผิวแดงมาก แลดูมีความสมบูรณ์ เชื่อว่าลงขมิ้นแล้วไก่จะมีความแข็งแกร่งอดทน สามารถต้านแรงปะทะได้ดี เหตุผลที่เซียนหลายคนไม่ชอบลงขมิ้น คือ ขมิ้นทำให้ขนของไก่เสีย หากลงขมิ้นให้ไก่บ่อยหรือลงหนักจะทำให้ขนไก่ร่วงง่าย ทำให้การใช้งานของก็จะลดลงไปด้วยเพราะขนร่วง ทำให้ไก่หอบไวเพราะถึงจะเช็ดตัวเปียกขนาดไหนแต่ก็แห้งไวเพราะไม่มีขน บางตัวลงขมิ้นหนักไปทำให้ผิวเขากร้านจึงแลดูเหมือนกับไก่ที่ผ่านศึกมาเยอะก็มี ขมิ้นทำให้ผิวแดงจริงแต่ไม่ได้แดงเพราะผิวพรรณดี แต่แดงเพราะขนร่วงจากปูนแดงที่กัด ถ้าผิวของไก่ส่วนไหนไม่มีขนธรรมชาติของเขาก็จะสร้างผิวที่แดงขึ้นมาแทนนั่นเอง ขมิ้นไม่ได้ทำให้ไก่แข็งแกร่งทนทานแต่อย่างใด การที่ไก่จะแข็งแรง มีความอดทนนั้นขึ้นอยู่กับการฝึกซ้อมฝึกฝนเท่านั้น ถ้าอยากให้ไก่มีความเก่ง อดทน การซ้อมเตะเป้า เตะนวม เตะหน้าก็เพียงพอแล้ว ซึ่งขอดีของการลงขมิ้นที่เห็นผลจริงก็เพียงแค่เป็นยาสมานแผลเท่านั้น แต่ในปัจจุบันนี้เรามีทางเลือกในการในการรักษาแผลให้กับไก่มากมาย ทั้งการกินยา ทายา หรือฉีดยาที่เป็นยารักษาแผลแผนปัจจุบัน ที่มีผลในการรักษาที่เร็วกว่าให้เลือกกันแล้ว การลงขมิ้นก็ไม่สำคัญเท่าไหร่นัก แต่ถ้าใครที่ยังชอบลงขมิ้นอยู่ก็ไม่เสียหายอะไรสามารถทำได้ตามความชอบของแต่ละท่าน
หลากหลายคำถามที่คนเลี้ยงไก่อยากจะรู้ว่าการเลี้ยงไก่ออกชนนั้นต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะมือใหม่หลายๆท่านก็ยังคงไม่แน่ใจว่า แบบนี้ทำได้ไหม เลี้ยงแบบนี้ถูกต้องหรือเปล่า เรามีคำตอบจากบางคำถามมาให้ทุกท่านหายสงสัยกัน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับมือใหม่ทุกท่านให้มีความมั่นใจมากขึ้น ไก่ชนเริ่มเตะได้อายุเท่าไหร่ ไก่หนุ่มแต่ละตัวแต่ละสายพันธุ์จะมีความพร้อมไม่เหมือนกัน บางทีในคอกเดียวกันก็ยังมีความพร้อมไม่เท่ากันก็มี บางตัวสู้ไก่แล้วแต่บางตัวยังไม่สู้เลย ในคอกเดียวกันบางตัวมีขนาดตัวเล็กกว่าเพื่อนแต่สู้ไก่ก่อนตัวที่โตกว่าก็มี ซึ่งเราจะวัดเขาจากอายุเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ดังนั้นจะดูว่าไก่พร้อมหรือยังให้ดูที่ตัวของไก่เป็นหลัก ดูว่าเขาพร้อมที่จะสู้จริงๆก่อนไม่ใช่บังคับให้เขาสู้ ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะโตแล้วแต่บางครั้งจิตใจของเขายังไม่โต ยังไม่พร้อมที่จะสู้กับใคร ถ้าเราไปบังคับเขาไปล่อให้เขาสู้ไก่บ่อยๆอาจจะทำเขากลายเป็นไก่สองใจได้ คือสู้บ้างไม่สู้บ้าง คนเลี้ยงไก่ต้องรู้จักใจเย็นไก่บางตัว 8 – 9 เดือนก็พร้อมชน แต่บางตัวอาจจะ 11 – 12 เดือน อย่างพึ่งใจร้อนไก่อายุเยอะก็ยิ่งเลี้ยงง่าย บางทีไก่อายุน้อยถ้าเราเลี้ยงเขาเร็ว ซ้อมเขาหนัก โครงสร้างเขายังไม่สมบูรณ์เต็มที่เขาอาจเกิดกระดูกเปาะได้นั่นจะทำให้มีโอกาสเสียไก่ได้ ไก่ชนเล่นได้กี่ถ่าย ไก่ชนที่เล่นได้แน่นอนคือ 2 ถ่าย แต่ถ้าเกินจากนี้ 3 – 4 ถ่ายก็ขึ้นอยู่กับไก่แต่ละตัวว่าร่างกายของเขาเป็นอย่างไร บางตัวเจอศึกหนักมาทั้งสองถ่ายแล้วหลังจากถ่ายสามเสร็จกลับมาตีฟอร์มเขาจะไม่เหมือนเดิม หรืออาจเกิดการเจ็บป่วยง่ายเช่น แข้งบวมง่าย หน้ามีเนื้อเยอะไปเมื่อโดนตีก็จะบวมง่าย แบบนี้ก็ไม่น่าเล่น แต่บางตัวร่างกายของเขาไม่ได้บอบช้ำมากจากสองถ่ายที่แล้ว ถึงแม้จะถ่ายสี่แล้วเขายังเล่นได้สบายๆ ซึ่งก็ต้องมองตามสภาพของไก่แต่ละตัว […]
ทั้งคอกมีเก่งตัวเดียว แล้วตัวเมียคู่เกิดนำมาทำแม่พันธุ์ดีไหม ในการเพาะพันธุ์ไก่ชนไม่ว่าพ่อพันธุ์จะเป็นสายเงินร้อยหรือสายเงินล้าน แม่พันธุ์จะมาจาเหล่ากอสายเลือดที่ดีแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่ได้การันตีว่าลูกเพาะที่ออกมานั้นจะมีความเก่งเหมือนกันทุกตัว ในคอกเดียวกันย่อมมีทั้งตัวที่เก่งและไม่เก่ง ทั้งตัวที่ใช้ได้กับใช้ไม่ได้ปะปนกันออกมา และยังไม่สามารถกำหนดได้เลยว่าจำนวนตัวที่เก่งจะมีมากหรือน้อย แล้วถ้าในคอกนั้นมีตัวผู้ที่เก่งเพียงตัวเดียว แล้วตัวเมียที่เป็นคู่เกิดเราจะนำมาทำเป็นแม่พันธุ์ดีไหม สมมติว่าเราเพาะลูกไก่จากพ่อแม่พันธุ์ที่เป็นไก่สายดังแล้วได้ลูกไก่ในคอกนั้นมา 10 ตัว เป็นตัวเมีย 6 ตัว ตัวผู้ 4 ตัว พอเลี้ยงมาจนถึงช่วงอายุที่สามารถคัดได้แล้วคัดออกมามีตัวเก่งเพียง 1 ตัวเท่านั้น อีก 3 ตัวนั้นใช้ไม่ได้เลย แล้วสาวๆคู่เกิดอีก 6 ตัวที่เหลือจะสามารถนำไปใช้งานได้ไหม หรือเขาก็อาจจะเหมือนตัวผู้ที่มีทั้งใช้ได้และใช้ไม่ได้ ซึ่งคำตอบนั้น ก็ต้องบอกว่า เหมือนกันกับตัวผู้ที่มีทั้งใช้ได้และไม่ได้ นั่นก็เพราะว่าจากที่จำนวนตัวผู้ที่เก่งน้อยกว่าตัวไม่เก่ง แสดงว่าในทั้งคอกนี้เปอร์เซ็นต์ที่จะไม่เก่งมีเยอะกว่า ซึ่งถ้าอยากจะได้ตัวเมียมาทำแม่พันธุ์ก็ต้องมีการคัดกันอย่างละเอียดเพื่อให้พลาดน้อยที่สุด วิธีการสังเกตว่าไก่ตัวเมียตัวนี้เก่งหรือไม่ก็ให้ดูว่า เขามีความคล้ายกับตัวผู้ตัวที่เก่งหรือคัดผ่านที่สุด ในการดูนั้นก็ให้ดูทุกส่วนในร่างกายเลยที่เดียว ตั้งแต่ ตา ดูสีตา แววตาที่เหมือนกัน ปาก มีรูปทรงมีสีที่คล้ายกัน สีสร้อยสีขนต้องมีสีที่คล้ายที่สุด สีแข้งเป็นสีที่ไปทางเดียวกัน […]
ไก่ชนในยุคสมัยนี้มีการพัฒนาขึ้นมาหลากหลายสายพันธุ์ นั่นก็เพื่อการพัฒนาให้ดีให้เก่งขึ้นกว่าเดิม นำจุดเด่นของแต่และสายพันธุ์มาผสมกันให้ไก่แต่ละตัวที่ออกมานั้นครบเครื่อง และคนที่นิยมเลี้ยงไก่ชนในแต่ละภาคแต่ละพื้นที่ของประเทศไทยก็นิยมเลี้ยงไก่ เล่นไก่รอยหรือขนาดที่แตกต่างกัน แล้วแต่ความนิยมของพื้นที่นั้น รวมไปถึงสายพันธุ์ที่นิยมในพื้นที่นั้นด้วยว่าสายพันธุ์นั้นมีรอยมีขนาดที่พอดีอยู่ที่เท่าไหร่ มาดูกันว่าเซียนไก่ชนในแต่ละภาคของเมืองไทยเขานิยมเล่นไก่รอยไหนกันบ้าง ภาคเหนือ โดยส่วนมากแล้วเซียนไก่ในภาคเหนือจะเล่นไก่รอยเล็กกัน คือ เล่นไก่ที่มีน้ำหนักหรือรอยที่ประมาณ 2.1 – 2.2 กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 2.3 กิโลกรัม จะเป็นรอยที่กำลังบินดี บินถี่ หลังจากถ่ายขนเสร็จก็จะมีรอยอยู่ที่ 2.4 กิโลกรัม ถ้าตัวไหนที่มีรอยตั้งแต่ 2.4 กิโลกรัมขึ้นไปจะไม่ค่อยนิยมเล่นกันจะถือว่ารอยโตเกินไป แต่ก็จะส่งมาให้ทางภาคกลาง ภาคอีสานเล่นกัน เซียนมือใหม่หากเล่นไก่ทางภาคเหนือก็ให้หาไก่รอยเล็กไว้เล่น ถ้ารอยใหญ่อาจจะหาคู่ยากได้ ภาคใต้ โดยส่วนมากแล้วเซียนไก่ทางภาคใต้จะเล่นไก่รอยโตกัน คือ มีน้ำหนักตั้งแต่ 3 กิโลกรัมขึ้นไป การเล่นก็จะมีทั้งแบบปิดเดือยและแบบเปิดเดือย ถ้าเล่นไก่ปิดเดือยส่วนมากจะเล่นกัน 7 ยก เวลาเปรียบไก่ของภาคใต้เจ้าของไก่ทั้งสองฝ่ายจะไม่จับตัวไก่ของฝ่ายตรงข้าม เพราะต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมให้จับ มีเพียงแค่การประเมินด้วยสายตาเท่านั้น ก็ต้องไปวัดกันที่ฝีมือในสนามเท่านั้น […]
เซียนไก่ชนแต่ละท่านก็อาจจะมีมุมมองในการมองเรื่องราวของไก่นั้นไม่เหมือนกัน ก็ขึ้นอยู่กับความคิดของแต่ละคน มุมมองของแต่ละท่านที่พบที่เห็นมา และในบทนี้ก็จะขอเล่าถึงอีกหนึ่งมุมมองของเซียนไก่ที่มีประสบการณ์มาหลายปี เป็นเรื่องของไก่พม่าแบบไหนที่น่ากลัวที่สุดของไก่เชิงหรือไก่ป่าก๋อย ไก่แต่ละสายก็มีความน่ากลัวด้วยกันทั้งนั้นแต่อันดับหนึ่งที่มีความน่ากลัวของไก่ชนสายพันธุ์พม่าที่สายเชิงกลัว คือ ไก่พม่าม้าล่อ ที่บอกว่าไก่พม่าม้าล่อน่ากลัวสำหรับไก่เชิงหรือไก่ป่าก๋อยนั้น ไม่ใช่ว่าไก่พม่าม้าล่อนั้นจะเป็นไก่ที่ร้ายกาจแต่อย่างใด แต่ที่บอกว่าน่ากลัวสำหรับไก่เชิงหรือไก่ก๋อยคือไก่พม่าม้าล่อถ้าตัวไหนเก่งก็คือเก่งสุดๆ วิ่งสปีดขาเร็วมากๆ เป็นไก่ที่วิ่งดี คือ สามารถวิ่งให้คู่ต่อสู้ตามไม่ไหวแล้วถอดใจได้ แต่ก็มีไก่พม่าม้าล่อบางตัวที่วิ่งไม่ดี คือ วิ่งแล้วไม่สามารถทำให้คู่ต่อสู้ถอดใจได้ ส่วนมากจะเป็นไก่ม้าล่อที่วิ่งทางเดียว มาพูดถึงม้าล่อที่วิ่งดีและทำให้คู่ต่อสู้แพ้ง่าย ม้าล่อบางตัวยังไม่ออกอาวุธเลยแค่พาวิ่งอันเดียว ไม่ถึงอัน หรืออันกว่าก็ทำให้คู่ต่อสู้แพ้ไปเลยก็มี สิ่งที่น่ากลัวคือมันพาคู่ต่อสู้วิ่งจนยางแตก หรือมีเทคนิคส่วนตัวที่วิ่งแล้วทำให้คู่ต่อสู้ท้ออย่างวิ่งซิกแซก หรือวิ่งเป็นเลขแปด ทำให้คู่ต่อสู้ตามไม่ทันและท้อไปในที่สุด แต่ม้าล่อที่ดีก็ต้องมาจากเหล่ากอที่ดีด้วย ใครที่จะเลี้ยงม้าล้อต้องดูให้ดีๆเลือกตัวที่จะสามารถเล่นแพงได้ และคนที่จะเลี้ยงก็ต้องกล้าที่จะเล่นแพงด้วย หากกล้าเล่นแพงก็จะได้เข้าไปเล่นในสังเวียนในที่กว้างให้เขามีพื้นที่ในการวิ่งอย่างเต็มที่ แต่ถ้าไม่กล้าตีแพงก็จะได้ตีที่สังเวียนนอกที่แคบกว่า เขาไม่สามารถวิ่งได้เต็มที่แล้วคู่ต่อสู้ตามทันอาจจะถูกไก่เชิงหรือป่าก๋อยตีตายได้เลย คนที่เล่นไก่สายเชิงหรือไก่ป่าก๋อยถ้าเลี่ยงได้ก็ให้เลี่ยงไก่พม่าม้าล่อ ยิ่งถ้าเป็นม้าล่อที่เป็นไก่ประกบด้วย หลายคนอยากจะวัดก็วัดได้ แต่ถ้ามีไก่เยอะแยะให้เราเลือกเลี่ยงได้ก็ให้เลี่ยงไก่พม่าม้าล่อ ยิ่งในช่วงที่อากาศร้อนๆแบบนี้ ถ้าไก่เชิงหรือป่าก๋อยฟิตไม่ดีวิ่งเหนื่อยตับแตก ถอดใจได้เลย บางทีไม่ทันเจ็บตัวเลยวิ่งอย่างเดียวก็แพ้แล้ว เป็นการแพ้แบบไม่สมศักดิ์ศรี ถ้าเรารู้ว่าเขาเป็นม้าล่อที่วิ่งสวยอย่าตีแต่ถ้ารู้ว่าวิ่งไม่สวยเลยวิ่งต้วมเตี้ยม ใครเป็นป่าก๋อยให้เลือกตีเลยแบบนี้วิ่งตามทันแน่นอน
ก่อนที่จะนำไก่ชนลงสู่สนามทุกครั้งเราคนเลี้ยงต้องเช็คให้ดีก่อนว่า ไก่ของเรานั้นมีความพร้อมหรือยัง ถึงแม้ว่าเราจะนำเขาเข้าคอร์สฝึกซ้อมเต็มที่มาแล้วก็ตาม เพราะบางครั้งสภาพร่างกายหรือจิตใจเขาอาจจะยังไม่พร้อมก็ได้ คนพร้อมแต่ไก่ยังไม่พร้อมอาจจะเกิดความสูญเสียตามมาได้ คนเลี้ยงไก่ต้องรู้จักสังเกตอาการของไก่ก่อนนำไปลงสู่สนาม ดังนี้ สังเกตช่วงที่ไก่กินข้าว ข้าวที่เราให้ไก่กินในช่วงที่ปั้นออกสู่สนามนั้นจะเป็นข้าวเปลือกร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วถ้าหากว่าวันหนึ่งเขากินข้าวได้น้อยลง และกินน้ำมากกว่าข้าว นั่นแสดงว่าเขาเริ่มมีอาการผิดปกติแล้ว อาการแบบนี้น่าจะเกี่ยวกับระะบบการย่อยในลำไส้ ซึ่งอาจจะเกิดจากการติดเชื้ออหิวาตกโรคหรือเกิดการติดเชื้อในทางเดินอาหารก็ได้ เมื่อเจอให้รีบรักษาโดยด่วน การสังเกตความผิดปกติของการกินข้าวของไก่นั้น เราควรให้ข้าวในปริมาณที่เท่ากันทุกวัน ระยะเวลาในการกินเท่ากันตรงเวลาทุกวันเมื่อหมดเวลาก็ให้เก็บออก เราก็จะได้สังเกตเห็นอย่างชัดเจนว่าเขาผิดปกติหรือเปล่า สังเกตช่วงที่ไก่ขับถ่าย ให้เราสังเกตดูอุจจาระไก่ว่าอุจจาระที่ออกมานั้นมีความเหลวเกินไปหรือไม่ หรือเป็นก้อนแข็งเกินไปหรือเปล่า รูปทรงของอุจจาระเป็นอย่างไรแปลกไปจากปกติไหม เหตุผลเพราะว่าเราให้เขากินอย่างเดิมทุกวัน การขับถ่ายของเขาก็จะต้องเหมือนเดิมทุกวัน เรื่องของอุจจาระเป็นเรื่องที่สำคัญมากเราต้องใส่ใจสังเกตให้ดี ก่อนที่เราจะนำไก่ลงสู่สนาม อุจจาระของไก่ที่ดีนั้นต้องเป็นก้อนคล้ายๆกับหัวอาหาร แต่จะมีขนาดที่ใหญ่และยาวกว่านิดหนึ่ง อุจจาระที่ไม่ดีคือจะเป็นของเหลวๆเหนียวเหมือนน้ำอ้อย น้ำตาลเชื่อมประมาณนั้น ถ้าอุจจาระไก่ไม่เป็นก้อนให้สงสัยได้เลยว่า ไก่ลำไส้อักเสบหรือไม่ก็กระเพราะไม่ย่อย วิธีแก้ก็ให้เสริมหญ้าให้เขาระหว่างที่กราดแดด สังเกตช่วงที่ลูบน้ำ กราดแดด ให้เราสังเกตอาการของไก่เวลาที่ลูบน้ำกราดแดดเสร็จ ถ้าไก่ตัวไหนที่สุขภาพดีเขาจะเอี้ยวคอมาด้านหลังแล้วปากรีดขนของเขา เป็นการจัดระเบียบขนของเขา แต่ถ้าไก่ตัวไหนที่ระหว่างกราดแดดแล้วเขายืนเฉยๆ หรือยืนซึม ปล่อยให้ขนแห้งเองโดยไม่ใช้ปากรีดขน ให้สงสัยว่าไก่ตัวนั้นอาจจะไม่ค่อยสบาย ช่วงที่เดินลู่ตากแดด […]
หากใครที่มีพ่อไก่ชนที่เป็นลูกผสมป่าก๋อยพม่าอยู่ ซึ่งเขาเป็นไก่ที่เรามองว่าเก่งมากอยากที่จะนำมาพัฒนาต่อยอดอีก และกำลังมองหาว่าจะนำสายใดมาเข้าให้มันดีขึ้นกว่าเดิม ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่าท่านกำลังคิดผิด อยากให้ท่านลองทบทวนพิจารณาดูใหม่ เหตุผลที่ต้องกล่าวเช่นนี้ก็เพราะว่า ไก่ลูกผสมไม่ว่าจะเป็นไก่พม่าผสมกับก๋อย หรือไก่ก๋อยผสมไก่พม่า หรือจะเป็นสายพันธุ์อื่นๆ ที่มีเลือดป่าก๋อยเป็นสารตั้งต้น แนะนำว่าท่านไม่ควรนำมาพัฒนาต่อยอด เพราะการผสมแบบนี้เขาเรียกว่า การผสมแบบคอร์สบรีด การผสมแบบคอร์สบรีด คือ การผสมแบบข้ามสายพันธุ์ เช่น ไก่ป่าก๋อยผสมกับไก่พม่า เป็นการนำไก่คนละสไตล์มาผสมกัน โดยไก่สายพันธุ์ป่าก๋อยจะมีก๋อยเชิง ก๋อยง่อน มีเอกลักษณ์ของเชิงคือการเดินเข้าหา แต่ไก่สายพันธุ์พม่ามีเอกลักษณ์ ยืนหลักปักสู้ หรือถอดถอยวิ่งชิ่ง ซึ่งถ้าหากว่าเรามีพ่อหรือแม่พันธุ์เป็นไก่พม่าก๋อย ซึ่งสารตั้งต้นที่เรามีจะเป็นลักษณะที่เป็นลูกกั๊ก คือ เข้าไม่สนิท ถอยไม่สุด ในการเข้าทำเชิงเขาก็จะเข้าตามหรือเปลี่ยนตามเชิงฝ่ายตรงข้าม ฝ่ายตรงข้ามทำอะไรเขาก็จะทำตาม เมื่อเราจะนำมาพัฒนาก็จะทำให้พัฒนายาก ถึงแม้ว่าเซียนบางท่านจะมองว่าไก่ลูกผสมแบบนี้เป็นไก่อัจฉริยะสามารถเปลี่ยนเชิงตามคู่ต่อสู้ เปลี่ยนตามสถานการณ์ แต่เมื่อลงสู่สนามแข่งจริงเขาจะสามารถสู้ได้กับแค่ลูกผสมเหมือนกันเท่านั้น แต่จะไม่สามารถต่อกลอนกับพม่าเลือดสูงได้ หรือสู้กับป่าก๋อยมืออาชีพได้ ส่วนมากแล้วจะไปไม่ค่อยถึงดวงดาวเข้าไปชิงแสนชิงล้านได้น้อยมากๆ แต่ไม่ได้รวมถึงลูกผสมพม่าไทย เพราะไก่พม่าแบบเดิมๆและไก่ไทยจะมีชั้นิงที่คล้ายๆกัน แต่ไก่ป่าก๋อยกับไก่พม่าจะเป็นไก่ที่มีเชิงคนละอย่างกันเลย ตัวหนึ่งเดินเข้าหาแต่อีกตัวเดินถอดถอยทั้งสองแบบนี้ไม่ควรนำมาพัฒนาร่วมกันเลย เพราะจะได้ลูกที่มีลักษณะที่ผิดเพี้ยนพ่อสั่งลุยแม่สั่งถอย นำไปพัฒนาต่อยอดค่อนข้างยาก ถ้าหากว่าใครอยากที่จะพัฒนาต่อยอดไปอีกจะต้องไม่ลืมทำสถิติกันด้วย […]
การเลี้ยงไก่ชนพม่าไก่หนุ่มที่เราเลี้ยงออกชนหลังจากที่ถ่ายขนแซมแรก 3 เดือนมาแล้ว สิ่งแรกที่เราต้องทำคือ การควบคุมอาหาร พอไก่ถ่ายขนแล้วแนะนำให้ใส่ล็อค แล้วพอไก่ถ่ายขนแล้วแนะนำให้นำไก่ใส่ล็อคไว้เพราะเขาจะได้มีที่เดินด้วย หากว่าเราใส่สุ่มไว้พื้นที่มันแคบจะทำให้ไก่ขาอ่อน เมื่อเดินก็อาจจะเดินล้มกลิ้งล้มหงายได้ และถ้าเกิดว่าเขาล้มบ่อยๆเมื่อถ่ายขนเสร็จขนสร้อยคอเขาจะกลับขนก็จะไม่สวย หรือถ้าใครมีพื้นที่เยอะก็ปล่อยตามสนามหญ้าก็จะดีมาก ให้มีพื้นที่ให้เขาได้เดินเขี่ยดินกินหญ้า มีตะคอนให้เขากระโดดขึ้นลงเขาก็จะได้ออกกำลังกายในตัวด้วย ในเรื่องของอาหารการกินไม่ต้องเสริมอะไรเขามาก ให้ข้าวเปลือกกับหญ้าสดก็พอและฉีดคาโตซาลเป็นวิตามินเดือนละ 1 เข็ม เพื่อกระตุ้นให้เขาอยากอาหารไก่จะได้มีสุขภาพดี มีน้ำขนที่สวย ในระหว่างที่ไก่ถ่ายขนให้ทำวัคซีนทิ้งไว้เลยเมื่อไก่ขนเต็มก็สามารถใช้งานต่อได้เลยไม่ต้องเสียเวลามาทำซ้ำอีก ให้ป้องกันไว้หลังจากที่เขาถ่ายขน หลังจากทำวัคซีนเสร็จก็ปล่อยเขาในที่กว้าง อาจจะเป็นลู่ที่มีพื้นที่เดินมีตะคอนให้กระโดด หรือเป็นเล้ากว้างๆมีตะคอนก็จะดีไก่จะได้ออกกำลังตลอด แล้วพอขนใกล้จะเต็มให้เหลือปลายปีกสักประมาณสองเส้นกะเวลาประมาณเดือนก็จะเต็ม ใครจะนำไก่ไปว่ายน้ำในระหว่างนี้ก็ได้ว่ายน้ำในช่วงเช้า สัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง แล้วเดินตาข่ายในช่วงเย็นทุกวันและก็อาจจะบำรุงด้วยสมุนไพรด้วยก็ได้ แต่ว่าห้ามนำเขาไปเตะเด็ดขาดเพราะหลอดปีกหลอดหางกำลังขึ้น ถ้านำไปเตะหลอดปีกอาจจะแตกหักและทิ่มเนื้อเขาได้ และระหว่างที่รอขนเต็มก็ให้ตกแต่งเดือยไปด้วยได้เลย ให้ได้ขนาดความยาวที่พอดีอย่ายาวเกินไป หลังจากที่ขนขึ้นเต็มก็ให้นำมานวม 4 วันครั้งหนึ่ง ครั้งละ 1 ยก เป็นเวลา 1 เดือน พอครบเดือนก็ให้เปิดหน้าซ้อมประมาณ 3 – 41 […]
การเพาะลูกผสมไม่ว่าจะเป็นไก่พม่าผสมกับไก่เชิง ไก่พม่าผสมกับไก่ป่าก๋อย หรือสายพันธุ์อื่นๆที่นำมาผสมกัน หากทำการเพาะผสมก็สามารถทำได้ซึ่งก็สามารถใช้งานได้ แต่ต้องทำใจว่าไก่ลูกผสมนั้นจะเป็นไก่ที่ไม่ค่อยสุด การเข้าทำเชิงยังไม่ดีพอ คือ เข้าไม่ลึก ถอยไม่สุด แต่ถ้าใครที่อยากจะเพาะพัฒนาลูกผสมให้มันออกมาดี ออกมาพลาดน้อยที่สุด ออกมาให้ใช้งานได้มากที่สุด ก็สามารถทำได้แต่ก็ต้องมีแนวทางในการปฏิบัติ ดังนี้ ลูกผสมเป็นการนำเอาลักษณะการทำเชิงของแต่ละสายที่ไม่เหมือนกันเลยมาเพาะพัฒนาร่วมกัน แต่มีวิธีแนะนำคือ การทำลูกผสมนั้นอย่าทำแบบ 50:50 เช่น ไก่พม่าร้อยผสมกับไก่ป่าก๋อยร้อย เพราะการเพาะพัฒนาแบบนี้ส่วนมากออกมาแล้วจะใช้งานแทบไม่ได้เลย ลูกที่ออกมานั้นจะเป็นลูกกั๊กทันที จะเป็นว่าเข้าไม่สนิทออกไม่สุด พ่อสั่งลุยแม่สั่งถอย ประมาณนี้ แต่สูตรที่ทำแล้วสามารถใช้งานได้ก็จะเป็นสูตร 75:25 จะเป็นการเพาะโดยใช้รุ่นที่สามที่สี่เป็นต้นไป จะเอาเป็นไก่ป่าก๋อย 75 พม่า 25 ก็ได้ หรืออาจจะเป็นไก่พม่า 75 ไก่ป่าก๋อย 25 ก็ได้ เช่น เรามีป่าก๋อยที่เก่งเลยแล้วเราอยากเติมในลูกหน้า ลูกกินเปล่า ลูกเสิร์ฟหน้า เราก็เอาพม่าที่มีลูกหน้าเน้นๆมาเติม ก็จะได้ก๋อยเชิงที่มีลูกหน้าเสิร์ฟนำหน้า หรือว่าเรามีพม่าเลือดสูงมีลูกหน้าเยอะๆแต่ว่ากระดูกปล้องคอยังไม่แข็งแรงพอ […]