Category Archives: คนรักไก่ชน

     ในการเข้าคอร์สโค้งสุดท้ายก่อนที่จะออกชนสามวันสุดท้ายนั้นควรที่จะดูแลไก่ชนอย่างไรให้ถูกต้อง  เพื่อที่เมื่อถึงเวลาลงสนามจริงไก่ของเราจะได้มีความพร้อมเต็มที่  เรามีข้อแนะนำมาให้ทุกท่านได้ลองนำไปปฏิบัติกันดู      คอร์สในการเลี้ยงไก่ออกชน  21 วันให้นับวันจันทร์เป็นวันแรกของการออกกำลังกาย  เพราะส่วนมากแล้วนัดในการแข่งขันนั้นจะเป็นวันเสาร์ หรือ อาทิตย์  แล้วในสัปดาห์สุดท้ายก่อนถึงวันแข่งวันที่จะให้เตะเป้าออกกำลังกายได้คือ วันอังคาร  โดยให้เตะหนึ่งอันไปเลย  พันพลาสเตอร์ปากบนกันปากฮ่อปากแดง  พันก้อย    หลายๆรอบป้องกันไว้  ใส่นวมพันตอให้เรียบร้อย  พันนวมหนาๆเอาไว้ป้องกันการปะทะ  หากเกิดอาการบวม 3 วันอาจจะหายไม่ทัน  เช็ดน้ำเตะไปเลย 20 นาที  หลังจากเตะเสร็จก็ให้กินสมุนไพร แตงกวา มะเขือเทศเสริม  ยาเลี้ยงยาเสริมที่เราใช้  นวดคลายกล้ามเนื้อด้วยยานวดสูตรร้อนตามบริเวณกล้ามเนื้อที่ต้องรับแรงปะทะ  หน้าอก ใต้ปีก  ปั้นขา นวดนิ้วอุ้งเท้า  นวดเสร็จก็กราดแดด      พอวันรุ่งขึ้นเป็นวันพุธ  ให้คลายกล้ามเนื้อให้ไก่ด้วยการเช็ดน้ำและเช็ดกระเบื้องบางๆเพราะเมื่อวานเราทายานวดไว้  แต่ไม่ต้องออกกำลังกายแล้ว  กินยากินสมุนไพรปกติและนวดยาอีกหนึ่งครั้ง  ตากแดดพออุ่น  ช่วงเย็นก็เช็ดด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง      วั นพฤหัสบดี  ช่วงเช้าให้เช็ดน้ำบางๆไม่ให้เปียก  ลูบกระเบื้องก็บางๆพออุ่นแต่ไม่นวดยาแล้ว  ปล่อยเดินเล่นขังสุ่ม  ช่วงเย็นก็เช็ดน้ำหมาดเช่นเดิม  กินปกติ ข้าว  ยาสมุนไพร  […]

    สำหรับมือใหม่ที่พึ่งเริ่มเลี้ยงไก่ออกชนอาจจะเจอปัญหาไก่ชนที่เลี้ยงมาตีไม่แม่น  แต่ถ้าจะทิ้งเลยก็เสียดายจึงเกิดคำถามว่า ไก่ชนตีไม่แม่นเราสามารถแก้ไขมันได้ไหม  ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าตรงนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวจากประสบการณ์ที่เลี้ยงไก่มา     ก่อนอื่นเราต้องมองถึงหลักความเป็นจริงก่อนว่า  ถ้าไก่มันไม่แม่นแล้วเราทำให้แม่นได้แล้วเราทำไมต้องเพาะแต่ไก่แม่นๆ  หาแต่ไก่ที่แม่นๆมาผสม  ถ้าหากว่ามันสามารถพัฒนาจากไก่ไม่แม่นให้มาแม่นได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด  เราก็คงมีไก่เก่งไก่แม่นกันทุกสายพันธุ์      ไก่เขาก็ตามธรรมชาติของเขาเทือกเขาเหล่ากอของเขาแม่น  ก็จะส่งผลความแม่นมาตามสายเลือด  ไก่ถ้าเขาไม่เก่งก็จะไม่เก่งเลยไม่สามารถแก้ไขได้  แต่ก็ไม่ทราบว่ามีเซียนท่านไหนที่ทำได้หรือเปล่าแต่ประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยเลี้ยงไก่มีก็ยังไม่เคยทำได้     ส่วนใหญ่สิ่งที่เราจะช่วยไก่เขาได้ คือ ความแข็งแรง  ความสมบูรณ์มากกว่า  ความสมบูรณ์ก็เกี่ยวกับอาหารการกิน  ยาป้องกันโรค  ยาบำรุงต่างๆ  และเพิ่มความแข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย เช่น โดดกล่อง  วิ่งสุ่ม  วิ่งลู่  ว่ายน้ำหรืออะไรต่างๆที่จะทำให้เขาแข็งแรง  ซึ่งก็มองว่าความแข็งแรงอาจจะไม่ช่วยให้ความแม่นขึ้นแต่อาจจะเพิ่มในเรื่องของเบอร์แข้ง     ถ้าไก่แข็งแรงขึ้นเขาอาจจะตีแรงขึ้น  แต่ไก่ที่ตีไม่แม่นตีไม่ค่อยโดนไก่เท่าที่เคยเห็นมาก็ไม่เคยเห็นว่าตัวที่ไม่แม่นจะกลับมาแม่นได้  ไก่หนุ่มที่เราพึ่งจับมาจากฝูงอยากจะลองดูเขาสักห้านาที  ถ้าไก่ตัวที่แม่นบางตัวยังยืนดินไม่ดีด้วยซ้ำ  ยังล้มลุกคลุกคลาน หงายท้องอยู่ก็มี  แต่เขาจะมีความแม่นตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเตะเลยเพียงแค่หลังเขายังไม่ดีเพราะยังไม่ได้ออกกำลังกาย     ความแม่นมันจะมาจากเทือกเขาเหล่ากอเขาเลย  จะมีความแม่นให้เห็นตั้งแต่ครั้งแรกที่เตะเลยจะยกยังไงก็แม่น  แล้วพอเขาได้ออกกำลังกายร่างยกายเขาก็แข็งขึ้นและความแม่นก็ยังคงอยู่      จะบอกว่าไก่ที่มันแม่นจะล้มลุกโซเซอย่างไรก็ยังแม่น  แต่กับไก่ที่ไม่แม่นจะออกกำลังกายแข็งแรงแค่ไหนถ้าไม่แม่นก็ไม่แม่นอยู่ดี  จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทุกคนถึงเลือกไก่ที่เทือกเขาเหล่ากอที่ดี  เลือกสายพันธุ์ที่ดี  เลือกพ่อแม่ที่มีสายเลือดเก่งๆกัน  เป็นความคิดเห็นส่วนตัวไม่ถูกใจท่านใดห็ขออภัยมา ณ […]

   หลายๆท่านคงสนใจในไก่ชนป่าก๋อยและอยากที่จะนำมาเลี้ยงนำมาพัฒนากัน  แต่ในการเลือกไก่ป่าก๋อยให้ได้ไก่ที่ตีคู่ต่อสู้แบบเอาอยู่ต้องเลือกกันอย่างไร  จะเป็นก๋อยเลือดร้อยหรือก๋อยลูกผสมดี  วันนี้มีคำตอบให้ทุกท่าน    ไก่ป่าก๋อยสมัยก่อนเป็นป่าก๋อยเลือดร้อยที่ยังไม่ได้พัฒนา  ข้อดีคือ ปากไว  ถอนไปมั่วโดนตรงไหนก็ถอนตรงนั้นถอนไม่จำจุด  เป็นไก่ปากบอนถอนเยอะ  แต่ข้อเสียคือ ถอนไม่จำจุดเป็นไก่กระดูกเล็กไม่ได้พัฒนา  แต่สมัยนี้มีการพัฒนาป่าก๋อยเป็นไก่สามสายถ้าเราจะซื้อให้ดีก็ต้องเลือกแบบไก่สามสายที่เป็นก๋อย เชิง ง่อน  ต้องเลือกไก่ที่หัวอยู่หลัง  ชนดีชนลึก  ชนปุ๊บหัวเข้าหลังเลย     หาไก่ตัวที่ช่วงขาสูงพอดีไม่สูงมากและไม่เตี้ยเพราะถ้าเตี้ยแล้วจะตีหลังไม่ถึง  มีกล้ามขา  ปากหนาเหล้าปากหนามีร่องน้ำ  หน้าง้ำมีแก้มพวกที่หน้าเชิดโอกาศที่จะไม่จิกกัดมีสูง  กระโหลกหัวหนาๆใหญ่ๆ  ช่วงคอยาว  ลำตัวยาวสมส่วนไม่ยาวจนน่าเกลียด  จับจะเล็กกลมหรือยานแบบไหนก็ได้แต่อย่าโตเกินเดี๋ยวเปรียบยาก    กระปุกน้ำมันใหญ่ๆแน่นๆ  แข้งสวยๆตันๆไม่ต้องใหญ่มาก  ดูตอต่ำๆพวกนี้จะเป็นไก่ใช้เดือยแทงลึก  ไก่ที่ตอสูงส่วนมากจะเป็นไก่ใช้แข้ง  ป่าก๋อยต้องเลือกแผลตีหลังกัดแล้วต้องตีที่หลังอย่างเดียว  ถ้าแผลตีที่อกที่บ่าจะช้ากว่าจะล้มคู่ต่อสู้ได้ใช้เวลานาน  คนเชียร์อาจจะเชียร์มันเพราะมันตีกันนาน     แต่ท้ายสุดแล้วอาจจะไม่ชนะเลยเพราะใช้เวลานานเกิน  ถ้าเลือกตีแผลหลังจะทำให้ชนะเร็วเพราะร่างกายของไก่อวัยวะภายในจะอยู่ติดแผ่นหลัง  ตัวไหนที่ตีแผลหลังให้เลือกซื้อกันได้เลย  จะตีโดนมากโดนน้อยพลาดไปโดนจุดอื่นก็ไม่เป็นไร  จะได้ไม่เสียเวลาในการพัฒนาป่าก๋อย      หรืออาจจะมีอีกหนึ่งแผลที่น่าเล่นคือ แผลซอกคอ  แผลกกคอบน  กกคอล่าง  ตีสลับกัน  แผลนี้จะทำให้คู้ต่อสู้เมื่อยและเฉาได้  แต่ถ้าเจอแผลอื่นหรือตียึดเยื้อสามอันสี่อันแบบนี้ก็ไม่ควรนำมาเล่นเสียเวลาเปล่าๆ  ต้องเลือกที่เป็นแผลหลังถ้าโดนตีแผลหลังซ้ำอันสองอันก็ล้มคู้ต่อสู้ได้แล้ว  ถ้าพม่าม้าล่อวิ่งยังพอรอดแต่ถ้าไม่วิ่งคือจบทันทีเมื่อถูกป่าก๋อยเล่นแผลหลังไป  แต่ป่าก๋อยเก่งๆจะหายากและราคาจะสูงกว่าไก่พม่า  แต่พม่าสมัยนี้ก็ดีดตัวขึ้นมาสูงเช่นกัน

    ไก่เป็นกลากถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ก็เป็นเรื่องหยุมหยิมกวนใจคนเลี้ยงไก่ทั้งหลาย  โดยเฉพาะคนที่เลี้ยงไก่ชนเพราะถ้าเป็นหนึ่งแล้วมันจะลามไปติดตัวอื่นได้  เนื่องจากบางทีการเช็ดน้ำไก่จะใช้ผ้าผืนเดียวกันเช็ด     จึงทำให้ถ้ามีตัวหนึ่งเป็นแล้วก็จะไปติดตัวที่เหลือด้วย  การป้องกันไก่แต่ละตัวควรใช้ผ้าคนละผืนของใครของมันไปเลย  เพราะบางตัวอาจจะไปติดมาตอนที่ไปชนแต่ยังไม่แสดงอาการมาก  แต่กว่าจะรู้ว่าเป็นกลากก็ติดตัวอื่นไปแล้วถ้าเราใช้ผ้าเช็ดน้ำผืนเดียวกัน      และขนไก่ปั่นคอก็เช่นกันควรแยกตัวละอัน  พร้อมทั้งอุปกรณ์อื่นๆด้วยแยกตั้งหลังสุ่มของใครของมัน  นอกจากจะป้องกันกลากที่จะติดกันได้แล้วยังสามารถป้องกันโรคติดต่ออย่างอื่นได้อีกด้วย     ไก่ที่เป็นกลากเราจะเริ่มเห็นตรงที่หน้าก่อนเพราะหน้าไม่มีขนปกปิด  แต่ส่วนอื่นในร่างกายก็อาจจะเป็นเช่นกันเพราะเราใช้ผ้าผืนเดียวกันเช็ด  พอเห็นว่าที่หน้ามีกลากก็หายามาทาเฉพาะที่ใบหน้า  แต่ส่วนอื่นไม่ได้ทากลากก็ไม่หายแล้วไก่เขาจะนอนหลับไม่สนิท  ก็เหมือนกับคนเวลาเป็นกลากก็จะคันจนนอนไม่หลับ      การรักษาก็จะมีสูตรโบราณที่คนเลี้ยงไก่สมัยก่อนใช้กันมาคือน้ำมันมะพร้าวกำมะถันมาทา  หรือจะใช้ต้นข่าอ่อนช่วงที่ติดกับแง้งหรือหัวนำมาทุบผสมเหล้าขาวนิหน่อยแล้วนำไปขยี้ตามผิวไก่ที่เป็นกลาก  แต่สมัยนี้ก็มียาแผนปัจจุบันหลายชนิดที่ใช้ทารักษากลากไก่  และก็มีพวกแชมพูรักษากลากไก่  แต่ถ้าหากว่าไก่เป็นเยอะยาทายาสระเอาไม่อยู่ก็ต้องพึ่งยากิน     ยาก็จะเป็นยากินของคนนำมาใช้กับไก่ได้  เช่น  ยานินาซอล  หรือ ยาฟังกะซ่อน  เป็นยาฆ่าเชื้อราไก่ใหญ่กินไปเลยหนึ่งเม็ดครั้งเดียว  ไม่ทำให้ไก่แพ้  ไม่ซีดไม่ขาว  ปล่อยให้ยาฆ่าเชื้อราสักวันหรือสองวันก่อนสังเกตว่าเม็ดกลากนั้นจะเป็นสีขาว  ก็ให้ปล่อยไปก่อนอย่าพึ่งไปเช็ดน้ำรอให้เชื้อมันตาย 2 – 3  วัน  หลังจากนั้นให้เปลี่ยนผ้าเช็ดน้ำใหม่ทั้งหมดของเก่าให้ทิ้งไป     ทำแบบนี้ไก่จะไม่กลับมาเป็นกลากอีกแต่ถ้าจะเป็นอีกก็คงจะไปติดกับตัวอื่นเวลาที่นำไปปล้ำไปชนได้  การให้ไก่กินยาประหยัดเวลาไม่ต้องไปนั่งทาทุกตัว  ประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะกินตัวละเม็ดเท่านั้น  และที่สำคัญได้ผลเห็นผลเร็วด้วย

   มีหลายๆท่านที่ตอนนี้เริ่มเลี้ยงไก่ชนเพื่อเป็นอาชีพ  อาจจะทั้งเป็นอาชีพเสริมหรือเป็นอาชีพหลัก  สำหรับมือใหม่หลายๆท่านที่พึ่งเริ่มก็คงจะมีความสงสัยกันว่า  ไก่ชนแต่ละซุ้มแต่ละฟาร์มก็เลี้ยงเหมือนกันใช้เวลาเท่ากัน  แต่ทำไมราคาตอนขายถึงไม่เท่ากัน  ในการเลี้ยงไก่มันก็ต้องมีการลงทุน      การลงทุนไม่ว่าจะเป็นโรงเรือนหรือวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้ในการเลี้ยง  ไม่ว่าจะใช้เลี้ยงไก่ตัวไหนก็ตามต้นทุนนั้นจะเหมือนกันเท่ากัน  แต่กับต้นทุนที่ตัวไก่ที่จะนำมาเลี้ยงนั้นมันจะไม่เท่ากัน  เช่น เปรียบเทียบไก่ 2 ตัว  ตัวที่ 1 ซื้อมาจากชาวบ้านทั่วๆไปที่เขาบอกว่าเก่งแต่เป็นไก่ที่ไม่มีชื่อเสียง     ไม่ได้มาจากสายเลือดที่มีชื่อเสียง  ส่วนตัวที่ 2 มาจากพ่อแม่ที่มีสายเลือดการชนแพงมา  มีประวัติการชนของพ่อแม่มาดีชัดเจน  ถ้าเราเลือกซื้อไก่ตัวที่ 1 ที่ไม่มีชื่อเสียงราคาไม่สูงนำมาพัฒนาสามารถทำได้     แต่พออยากขายแล้วขายแพงมันมักจะขายไม่ได้  แต่ถ้าเราเลือกซื้อตัวที่ 2 ที่มีสายเลือดชนแพงมีชื่อเสียง  มีประวัติพ่อแม่ชัดเจนราคาอาจจะสูงหน่อยแต่เวลาขายเราก็สามารถตั้งราคาที่สูงขึ้นได้  ในการเลือกสายไก่ชนที่จะนำมาพัฒนาเราชอบสายไหนก็เลือกสายนั้นมีหลายซุ้มหลายฟาร์มให้เราเลือก     แต่ในการเลือกซื้อจากซุ้มก็ใช่ว่าจะได้ของดีร้อยเปอร์เซนต์  มีวิธีแนะนำในการซื้อไก่แล้วได้ของดีแน่นอนคือ  ให้ไปซื้อกับคนรู้จักที่เขาซื้อไก่สายเลือดแพงมาพัฒนา  ให้เราไปเลือกจากตัวที่เขาคัดเขาปล้ำแบบนั้นเราจะได้ของดี  และราคาก็จะถูกกว่าซื้อตรงจากฟาร์มใหญ่ด้วย  แต่เราก็ต้องขอประวัติของเขามาด้วยว่าพ่อแม่ปู่ย่าตายายเป็นใคร       ในการเลี้ยงไก่เราต้องทำแบบนี้ถ้าเรามัวแต่จะไปเริ่มนับหนึ่งหาไก่มาเพื่อที่จะทำสาย  เพื่อนำมาพัฒนาสายให้เก่งแล้วนำมาไว้ขายแพงหรือนำไปตีแพงแบบนี้มันจะช้า  อันไหนที่ก้าวกระโดดได้ก็ให้เลือกก้าวไป  อย่าคิดว่าเราเป็นมือใหม่เราต้องเลือกอันถูกอันธรรมดาไปก่อนแบบนี้เราก็จะไม่โตจะย่ำอยู่กับที่     สู้เราซื้อของดีไปเลยราคาอาจจะแพงกว่านิดนึงแต่เราจะได้บอกเล่าให้คนอื่นได้ฟังด้วยว่าไก่เราเป็นมาอย่างไร  แล้วไก่มันจะขายตัวมันเอง  คนก็จะรู้จักเรามากขึ้นและเร็วขึ้นและเราก็จะสามารถตั้งราคาที่สูงได้อีกด้วย

    คนเลี้ยงไก่หลายๆท่านแต่ละพื้นที่ก็คงจะมีวิธีการเลี้ยงไก่ที่แตกต่างกัน  และเมื่อถึงเวลาลงสนามก็จะมีวิธีที่ดูและไก่ระหว่างพักไม่เหมือนกัน  มือใหม่หลายๆท่านก็คงจะสงสัยกันว่าทำไมบางที่ใช้ทั้งน้ำเย็นใช้ทั้งกระเบื้อง  แต่บางที่ใช้เพียงน้ำอย่างเดียว  การใช้ทั้งสองแบบนี้แล้วแบบไหนดีกว่ากัน  หรือควรใช้ในการณีใดบ้าง  วันนี้เรามีคำแนะนำมาฝากมือใหม่ทุกๆท่าน     ถ้าเกิดว่าไก่ของเราโดนตีแผลหลัง แผลตัว  ในการทำแผลให้ไก่และดูแลไก่ช่วงพักบางคนอาจจะใช้ทั้งน้ำเย็นและกระเบื้อง  บางคนใช้เพียงน้ำเย็นอย่างเดียว  ในการใช้ของแต่ละคนนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าอยู่ในเขตไหนสภาพอากาศเป็นเช่นไร  เช่น ในภาคเหลือตอนล่าง  ภาคกลาง หรืออีสาน  ส่วนมากจะชนกันที่ 4 – 5 อันเท่านั้น      แต่ทางภาคเหนือตอนบนเขาจะชนกันที่ 8 อัน  ในการชนหลายอันของทางภาคเหนือจำเป็นต้องใช้กระเบื้องด้วยเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ไก่  นั่นก็เพราะว่าสภาพอากาศทางภาคเหนือนั้นหนาว    ถ้าไม่ใช้กระเบื้องเข้าตัวแล้วเกิดเขาหนาวจังหวะที่ตะคริวมันเข้าบางทีก็เอาไม่ไหว  ถ้าตะคริวเข้าไก่แล้วไม่ยืนแข็งให้คู่ต่อสู้ตีมีแต่จะแพ้  ในกรณีถ้าไก่โดนตีแล้วเสียเลือดมากเราก็จะใช้น้ำแข็งในการประคบห้ามเลือด  และน้ำแข้งยังช่วยลดบวมอักเสบได้อีกด้วย     แต่ไม่ควรเอาน้ำแข็งไปใช้กับจุดอื่นที่ไม่ได้เป็นแผล  เพราะถ้าไก่โดนความเย็นเขาจะหนาวและอาจจะเป็นตะคริวได้  เมื่อไก่โดนน้ำแข็งเข้าไปถึงแม้ว่าจะเพียงแค่จุดที่มีแผลหรือบวมช้ำก็ตาม  แต่เขาก็อาจจะมีอาการเย็นไปทั้งตัวได้  ฉะนั้นก็ควรที่จะเข้ากระเบื้องเพื่อคลายความเย็นให้กับเขาด้วย  ส่วนในภาคกลาง     หรือ อีสาน  จะชนกันแค่ 4 – 5  ยกก็จะใช้น้ำเย็นในการทำแผลและน้ำธรรมดาในการเช็ดตัว  ไก่ชนไม่หลายยกโอกาสที่จะเป็นตะคริวก็น้อยหรือสภาพอากาศไม่หนาว  หรือค่อนข้างร้อนการใช้กระเบื้องก็ไม่ค่อยจำเป็น     […]

      ไก่ข้อบวม  คือ  อาการบวมของบริเวณรอยต่อระหว่างเท้ากับแข้งหรือบริเวณช่วงหลังเท้าตรงนิ้วก้อย  ส่วนสาเหตุที่ทำให้ข้อไก่บวมนั้นอาจเกิดจากปัจจัยหลักๆ  2  สาเหตุ  คือ   เท้าไก่เป็นหน่อเป็นแผลจึงทำให้เกิดการอักเสบ  ถ้าไก่เป็นหน่อที่เท้าแบบเรื้อรังแล้วไม่ได้รับการรักษาเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในอุ้งเท้าก็จะลุกลามมาบริเวณข้อ  เกิดการอักเสบด้านในเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้อบวม   เกิดจากการกระแทก  การกระแทกอาจเกิดจากการนอนที่สูงไก่บางตัวที่ปล่อยธรรมชาติ  แล้วมีที่สูงๆให้เขานอน  เวลาเขาบินขึ้นบินลงมันเกิดการกระแทกเมื่อบ่อยๆเข้าก็อาจทำให้เกิดอุ้งเท้าบวมได้  บางทีเกิดเส้นเอ็นฉีกขาดก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ข้อเท้าบวมได้  ถ้าเป็นแค่การอักเสบช้ำบวม  ฮ้อเลือดมีเลือดเสียด้านในแบบนี้สามารถรักษาได้  แต่ถ้าเท้าของไก่ได้รับการกระแทกแบบแรงมากๆแล้วเกิดการอักเสบ     อาจจะเป็นเพราะกระดูกของเขาเกิดการร้าวหรือแตกหัก  เกิดอาการบวมผิดปกติหรือเท้าผิดรูปอาการแบบนี้ต้องรีบปรึกษาสัตวแพทย์  เพราะถ้าเราปล่อยเขาไว้นานไม่รักษา  แคลเซียมต่างๆที่มาจากอาหารที่เขากินมันจะไปเสริมสร้างกระดูกตามธรรมชาติ  แต่ถึงแม้ว่าเขาหายได้เองตามธรรมชาติแต่ว่ากระดูกที่หักนั้นจะเกิดการผิดรูปได้     สำหรับการรักษาเท้าของไก่ที่เป็นหน่อแล้วลุกลามอักเสบ  การักษาก็ต้องรักษาที่หน่อกันก่อนเมื่อหน่อหายการอักเสบต่างๆก็จะดีขึ้นตามมา  ยาที่ใช้ในการรักษาก็จะมีทั้งยาฉีดและยาทา  ยาฉีดจะใช้เป็นยี่ห้อไหนก็ได้ให้เป็นยาแก้อักเสบแบบเฉียบพลัน  และยาทายานวดที่เป็นสูตรเย็น      ในกรณีที่ข้อบวมเมื่อจับดูแล้วเหมือนมีน้ำอยู่ข้างในบางทีอาจจะเป็นเลือดเสียที่ผสมกับน้ำเหลือง  เราอาจจะต้องเจาะโดยใช้เข็มเบอร์ 18  การรักษาก็ให้เริ่มจากฉีดยาก่อนเลยตามขนาดที่เขาแนะนำข้างขวดฉีดบริเวณกล้ามเนื้อหน้าอก    หรือถ้าไม่อยากฉีดก็สามารถใช้ยากินแก้อักเสบลดบวมแทนได้  หลังจากให้ยาเสร็จก็ให้ทายาในช่วงเช้าและเย็น  แต่ไม่ต้องนวดแค่ทาเบาๆย้อนเกล็ดให้ยาซึมหมดก็พอ  เพราะข้อเท้าบวมอยู่แล้วถ้านวดก็จะยิ่งทำให้เขาเจ็บมากขึ้น  ประมาณหนึ่งสัปดาห์อาการของเขาก็จะเริ่มดีขึ้นบางตัวเป็นไม่เยอะก็จะหายเร็ว     ในช่วงที่ไก่เขาเจ็บข้อเท้าบางตัวเขาก็จะยืนขาเดียว  หรือบางตัวเขาจะนอนบ่อยก็แนะนำว่าให้เขาอยู่กับพื้นหรือพรมที่นุ่มๆหน่อย  หรืออาจจะให้เขาอยู่กับพื้นทรายเลยก็ได้  สำหรับใครที่เจอไก่มีอาการแบบนี้ก็ลองนำวิธีการรักษานี้ไปทำกันดู

   สำหรับมือใหม่ทั้งหลายที่เลี้ยงไก่ออกชนแล้วไม่แน่ใจในกลารเลี้ยงไก่ของตน  ไม่มั่นใจว่าไก่ที่เลี้ยงป่วยหรือเปล่า  ไม่แน่ใจว่าไก่ที่เลี่ยงแล้วจะบินหรือเปล่า  ในการเลี้ยงไก่ออกชนถ้าเราเลี้ยงเข้าคอร์สมาตลอดโดดหลุมได้  วิ่งสุ่มได้  ตากแดดได้  ลงนวมเตะนวมได้  แค่ไก่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอถ้าไก่ไม่ป่วยอย่างน้อยๆสองวันไก่ต้องบินได้แน่นอน  หรือบางท่านกลัวว่ามันจะป่วย  มันจะไม่บินจึงลองเตะเช็คดูก่อน      แต่สำหรับคนที่เป็นมืออาชีพจริงๆเขาจะไม่เช็ค  คนที่เลี้ยงไก่เขาจะรู้ว่าไก่เป็นอย่างไรตอนเช้าเปิดมุ้งมาก็จะรู้เลยว่าเขาป่วยไหม  จับไก่มาลูบน้ำถ้าป่วยคอมันต้องดัง  หรือหลังจากเปิดมุ้งมา 30 นาทีมันก็จะยืนซึม  มีน้ำตาไหล  หรือขี้ไม่สวย  แบบนี้ถือว่าเขาเริ่มไม่สบายแล้ว  ถ้าเขายังปกติขี้ดีหน้าแดงเป็นมันนั่นเขายังปกติดีคนที่เป็นมืออาชีพเขาจะไม่เตะกัน  ถ้าเราเอาเขาไปเตะอาจจะยิ่งเพิ่มความเมื่อยให้เขา    ในเมื่อเราเลี้ยงเราก็ต้องมั่นใจในการเลี้ยงการฟิตซ้อมของเรา  อย่างเช่นมีนัดลงสนามวันเสาร์หรืออาทิตย์  คอร์สที่จะเตะวันสุดท้ายต้องเป็นวันจันท์  วันอังคาร พุธก็ต้องเริ่มพักนวดกระเบื้องนวดยา  วันพฤหัสฯวันศุกร์ให้พักนิ่งๆ  และก็คอยสังเกตดูเขากินข้าวไหม  ข้าวย่อยหมดกระเพาะไหม  ขี้สวยหรือเปล่า     แต่ถ้ามือใหม่อยากจะลองเตะก่อนนำไปสนามก็สามารถเตะได้ถ้าเขาบินสองสามครั้งแล้วคอดังก็แสดงว่าเขาป่วย  แต่ไม่ต้องเตะถึงหนึ่งนาทีเพราะบางที่ไปโดนคู่เตะเข้ากล้ามเนื้อเกิดเป็นกล้ามเนื้อเกรงหรือขึ้นอักเสบขึ้นมา  เขาอาจจะเจ็บอาจจะไม่บินขึ้นมาได้       ทางที่ดีก็ให้สังเกตอาการเอา  การเตะบางทีก็ไม่ได้เช็คได้เลยว่าไก่บินหรือไม่บิน  ไก่ที่ปล่อยเตะไม่ได้เช็ดน้ำยังไงก็บินทุกตัว  ส่วนในสนามเขาจะบินหรือไม่บินก็ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงของเราว่าเราเลี้ยงเขา  เราต้องรู้ว่าเราเลี้ยงเขาขนาดไหนนวมกี่ยก  เตะกี่อัน  พักสองวันแล้วไก่สมบูรณ์ไหม  ถ้าไก่สมบูรณ์ยังไงเขาก็ต้องบิน      ซุ้มใหญ่ๆเขาจะไม่เช็คกันเพราะเขามั่นใจในการเลี้ยง  มั่นใจในการดูแลของเขา  แต่มือใหม่อยากลองก็ลองได้นิดๆหน่อยๆไม่ต้องเยอะเพื่อความสบายใจ  แต่ถ้าถึงเวลาเปรียบแล้วไก่เรามีเสียงคอดังขึ้นมาก็อย่าเปรียบ  บางตัวก่อนออกจากบ้านไม่เป็นอะไรแต่พอไปโดนแอร์ระหว่างเดินทางกลับมาแล้วป่วยก็มี  อันนี้ก็ต้องระวังเรื่องการเดินด้วย

   ไก่ชนที่เล่นกันมานานแล้วจนขนเขานั้นเก่าแล้วพอถึงฤดูกาลของเขาก็จะมีการผลัดขน  สำหรับบางท่านที่ใจร้อนไม่มีไก่เล่นอยากให้ไก่ผลัดขนเร็วๆ  ถามว่ามีวิธีบ้างไหม??  ก็ตอบได้เลยว่ามี  เป็นวิธีที่เร่งรัดไม่เป็นไปตามธรรมชาติสำหรับคนไหนที่ใจร้อน  แต่ท่านใดที่ไม่รีบก็ปล่อยให้เขาผลัดขนไปตามธรรมชาติก็ดี      ส่วนท่านใดที่อยากให้ขนไก่หลุดเร็ววิธีทำก็คือ  ถอน  แต่ว่าการถอนต้องใจเย็นๆค่อยๆทำ  ดูว่าอันไหนเป็นขนเก่า ขนใหม่  ถ้าเป็นขนใหม่ที่กำลังแซมขึ้นมีหลอดเลือดอยู่อย่าพึ่งไปถอนของเขา  ให้ดึงเฉพาะขนเก่าออกขนที่เคยติดขมิ้นแล้ว  บางตัวขนเหนียวถ่ายช้าก็ให้ใช้วิธีถอนได้เลย  ให้นั่งค่อยๆถอนขนทีละเส้นห้ามถอนทีละเยอะและถอนตามแนวนอนของขน  อย่าถอนย้อนแนวขนเด็ดขาดไม่งั้นเขาจะเจ็บมากถอนทีละเส้นเขาก็สะดุ้งแล้ว      ให้เริ่มถอนที่คอก่อนค่อยลามมาที่หลังขยับไปเรื่อยๆแต่อย่าถอนตรงนั้นทีตรงนี้ทีเพราะเขาจะเจ็บเยอะ  และขนใหม่ที่มีหลอดเลือดก็อย่าถอนเพราะเขาจะเสียเลือด  ร่างกายช่วงถ่ายขนเขายังต้องใช้การสร้างเม็ดเลือดอีกเยอะ  ให้เลือกถอนเฉพาะขนเก่า  พอมาถึงขนปีกขนหางก็เช่นกันให้เลือกถอนขนเก่าเช่นกัน      หลังจากที่ถอนเสร็จแล้วให้เขากินแคลเซียมเสริมเร่งขน  สองสามวันให้กินครั้งหนึ่งเราไม่ต้องไปจับเขาบ่อย  และปล่อยให้เขาได้อยู่กับดินอย่าเอาไปขังไว้ในพรม  ให้อยู่ใต้ร่มไม้โดนแดดโดนฝนบ้างเล็กน้อยเอากระสอบปิดด้านบน       อาหารก็ให้กินข้าวเปลือกกับหญ้าไม่ต้องไปบำรุงเรื่องอาหารมากเดี๋ยวฟอร์มเขาจะไม่กลับมาเป็นปกติ  เพราะถ้าบำรุงเขาแต่ไม่ได้ให้เขาออกกำลังกายเขาก็จะอ้วน  และถึงเวลาให้เขาลดน้ำหนักก็จะเป็นเรื่องยากด้วย  กลางคืนก็คลุมมุ้งเดี๋ยวโดนยุงกัดเพราะไม่มีขน  อาจจะมีคอนหรือเก้าอี้เล็กในสุ่มให้เขาได้นอนด้วยไม่ต้องจับเขาเข้าที่นอน      เพราะไม่อยากให้จับเขาบ่อยถ้าเขากระพือปีกตีปีกไปโดนขนอ่อนแล้วขนอาจจะเบี้ยวได้  ปล่อยให้เขาอยู่ตามดินตามทรายแบบนั้นไก่เขาก็จะมีวิธีตามธรรมชาติของเขาเอง  ไก่ก็เหมือนกับคนถ้าอันไหนที่เป็นไปตามธรรมชาติมันก็จะสมบูรณ์แข็งแรง  ก็หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับมือใหม่ทั้งหลายที่อยากให้ไก่ถ่ายขนเสร็จเร็วๆ

    เกล็ดเหน็บคือเกล็ดเล็กๆที่ขึ้นแซมเกล็ดใหญ่ที่บริเวณหน้าแข้ง  หลังแข้ง  หรือตามนิ้วของไก่  เกล็ดแต่ละที่ก็จะมีความสำคัญแตกต่างกันออกไป  ไก่ที่มีเกล็ดเหน็บมักจะมีทีเด็ดมีลูกสวน  ลูกน็อคชนิดนัดเดียวจอด  ถ้าไก่เป็นต่อก็จะเหน็บฝ่ายตรงข้ามให้บอบซ้ำมากขึ้น  เกล็ดเหน็บที่พบบ่อยจะมีอยู่  6 ชนิดด้วยกัน  ดังนี้     -เกล็ดเหน็บตลอด  คือเกล็ดที่ขึ้นแซมหน้าแข้งของไก่ตั้งแต่ข้อขาไปจนถึงข้อเท้า  ยาวเรียงกันตลอดไม่ขาดและไม่ขัด  ถ้าเกล็ดตรงกลางแข้งแถวเดียวแนวร่องน้ำเราเรียกว่า  “เอกา” หรือ “ทิ้งดิ่ง”  ถ้าเกล็ดเหน็บสองแถวเราเรียกว่า “ฟ้าฝ่า”  หรือเกล็ดเหน็บสามแถวเราเรียกว่า “พญาครุฑ”  ไก่ที่มีเกล็ดเหน็บตลอดเป็นไก่ที่มีความพิเศษสามารถน็อคคู่ต่อสู้แบบครั้งเดียวจอดได้  แต่ก็จะเป็นไก่ที่หาได้ยากมาก     -เกล็ดเสือซ่อนเล็บหรือเกล็ดเหน็บข้อพับ  เป็นเกล็ดเล็กๆเกล็ดแตกหรือเกล็ดเหน็บฝังอยู่ตรงข้อพับนิ้วกลาง  เวลาไก่ยืนหักนิ้วจะมองไม่เห็นจะเห็นเมื่อเขายืนเหยียดนิ้วออกมา  ถ้าเป็นเกล็ดแตกด้วยแล้วถือว่าไก่ตัวนั้นมีความเก่งสุดยอด    -เกล็ดเหน็บในหรือแซมใน  จะเป็นเกล็ดที่มีรอยแตกซ้อนเกล็ดหรือเกล็ดเหน็บที่บริเวณนิ้วชี้หรือนิ้วด้านใน  ถ้ามีเกล็ดเหน็บทั้งสองข้างข้างละหลายๆเกล็ดตรงกันถือว่าดีเพราะเชื่อว่าไก่ตัวนี้สามารถล้มคู่ต่อสู่แบบนัดเดียวจอดได้เลย  แต่ถ้าเกล็ดเหน็บทั้งสองข้างไม่ตรงกันการจะล้มคู่ต่อสู้ได้ก็ต้องย้ำกันหลายครั้ง  หรือถ้ามีเกล็ดข้างเดียวก็ต้องอาศัยการออกแข้งย้ำๆ  เช่นถ้ามีแค่เกล็ดแตกไม่ถึงกับเกล็ดเหน็บหรือซ้อนอยู่ถือว่าเป็นไก่ที่มีความแม่นแต่ไม่ถึงกับนัดเดียวจอด    -เกล็ดเหน็บนอกหรือแซมนอก  จะอยู่บริเวณนิ้วนอกหรือนิ้วนางตั้งแต่หนึ่งเกล็ดขึ้นไปถ้ามีหลายเกล็ดและมีทั้งสองข้างก็ยิ่งดี  ความพิเศษก็อาจจะคล้ายกับเกล็ดในแต่อาจจะด้อยกว่า    -เกล็ดเหน็บหน้า  คือเกล็ดแซมเกล็ดหน้าแข้งของไก่  ถ้าเกล็ดเหน็บหรือเกล็ดแซมร่องน้ำหน้าเดือยและมีทั้งสองข้างจะออกแข้งแม่นมาก  ถ้ามีเกล็ดเหน็บข้างเดียวเราเรียกว่า “เกล็ดขัด”  ถ้าเกล็ดเหน็บมีตรงบริเวณอื่นๆที่หน้าแข้งตรงกันจัดได้ว่าเป็นไก่ลำหนัก    -เกล็ดเหน็บหลัง  คือเกล็ดแซมบริเวณด้านหลังแข้ง  […]