ยาโด๊ป หรือ ยาบิน ที่เซียนไก่ชนทั้งหลายนำมาให้ไก่กินในช่วงพักยก ทุกท่านเคยสงสัยกันไหมว่ามันคือยาอะไรกันแน่ มีสรรพคุณเมื่อกินแล้วทำให้ไก่มีพลังเพิ่มขึ้น บินดีตีเจ็บจริงหรือเปล่า เซียนรุ่นเก๋าก็อาจจะรู้จักกันดี แต่เชื่อว่ามือใหม่หลายๆท่านก็อาจจะยังไม่รู้ ว่าคือยาอะไร กินเพื่ออะไร และจะต้องกินอย่างไร วันนี้เรานำเรื่องของยาโด๊ปหรือยาบินนี้มาเล่าสู่กันฟัง หากท่านใดเคยซื้อยาโด๊ปมาให้ไก่กินในช่วงลงสนามก็คงจะเห็นว่ามันมาเป็นชุด ในชุดนั้นก็จะมียาอยู่ทั้งหมด 3 ชนิดด้วยกัน คือ ยาน้ำที่เป็นขวดหลอดบีบ ยาขวดเล็กๆด้านในเป็นเม็ดแคปซูลระบุว่า “ยาบิน” และอีกหนึ่งขวดด้านในเป็นแคปซูลเหมือนกันและระบุว่า “ยาทน” หลายๆท่านก็อาจจะสงสัยว่ายาบินคือยาอะไร ช่วยให้ไก่นั้นบินดีใช่หรือเปล่า มาขยายความของยาบินกัน ยาบิน ที่มากับชุดยาโด๊ปจะเป็นแคปซูลบรรจุอยู่ในขวด สรรพคุณของยาบินนั้นจะเป็นสารให้พลังงานช่วยให้ไก่มีความกระชุ่มกระชวย ซึ่งมีส่วนประกอบของตัวยาอยู่สามอย่าง คือ น้ำตาลกลูโคส ผงเกลือแร่ และยาลดหอบหรือยาขยายหลอดลม โดยผู้ผลิตจะนำสารทั้งสามชนิดนี้มาผสมกันตามสูตรของแต่ละคนและแปรรูปออกมาเป็นแบบผง รวมเรียกว่า ยาบิน ซึ่งส่วนประกอบทั้งสามนี้ กลูโคส จะช่วยเพิ่มพลังงานร่างกายได้รับเข้าไปก็สามารถนำมาใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อย เกลือแร่ ช่วยทดแทนการขาดน้ำ ป้องกันการขาดน้ำของไก่ทำให้ร่างกายไม่ล้า และสุดท้าย ยาขยายหลอดลม […]
Category Archives: คนรักไก่ชน
มือใหม่หลายๆท่านเคยได้ยินเซียนไก่เขาบอกว่า ไก่รออายุ กันบ้างหรือเปล่า และสงสัยกันหรือไม่ว่าทำไมต้องรออายุ รอทำไม และต้องรอถึงอายุเท่าไหร่ ไก่ชนทุกตัวต้องรออายุเหมือนกันหรือเปล่า เซียนมือเก๋าหลายๆท่านก็คงจะทราบกันดีถึงคำตอบของคำถามนี้ แต่เชื่อว่ามือใหม่หลายท่านที่ยังไม่เข้าใจถึงเหตุผล วันนี้จึงชวนมือใหม่ทั้งหลายมาทำความเข้าใจกันว่า ทำไมไก่ชนต้องรออายุ ไก่ชนที่มีอายุในช่วง 7 – 8 เดือนบางตัวสามารถใช้งานได้เลย แต่บางตัวยังต้องรออายุก่อน ไก่ชนไม่จำเป็นต้องรอายุกันทุกตัวถ้าตัวไหนพร้อมก็สามารถเลี้ยงได้เลย โดยไก่ที่เราพึ่งจับเขามาใหม่ๆแต่ละตัวความพร้อมต่างๆของเขาจะไม่เหมือนกัน ทั้งที่มาจากคอกเดียวกันก็อาจจะไม่เหมือนกัน ไก่ชนทุกตัวครั้งแรกที่เราจับเขามาเพื่อที่จะนำมาเลี้ยง ก่อนอื่นจะต้องเช็คก่อนว่าร่างกายเขาพร้อมหรือยัง เนื้อตัวเขายังนิ่มอยู่ไหม เพราะโครงสร้างของไก่ก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของเขาด้วย แม้จะอายุเท่ากันแต่ละสายพันธุ์ก็จะไม่เท่ากัน เช่น ไก่บางตัวติดง่อนมาโครงสร้างร่างกายของเขาก็จะดีหน่อย จับดูแล้วโครงสร้างดีเนื้อแน่นไม่ต้องรออายุก็สามารถนำไปเลี้ยงได้เลย แต่ถ้าเป็นไก่ที่ติดเลือดพม่ามาเยอะกระดูกโครงสร้างเขายังไม่ได้ ก็ต้องรออายุให้เขาโตขึ้นอีกหน่อย ให้กระดูกโครงสร้างเขาพร้อมกว่านี้ ให้ดีกว่านี้ก่อน ซึ่งไก่ที่ต้องรออายุส่วนมากก็จะเป็นไก่ชนที่ติดสายพม่า ไก่กระดูกโครงสร้างของเขาจะแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆตามอายุ บางตัว 7 – 8 เดือนแล้ว เริ่มสู้ไก่แล้วแต่โครงสร้างยังไม่ได้ก็จะต้องรอ อาจจะรอไปจน 2 […]
การเพาะพัฒนาไก่ชนพม่าของแต่ละซุ้มแต่ละฟาร์มนั้นก็จะมีความแตกต่างกันไป แต่เชื่อว่าจุดประสงค์ของการพัฒนานั้นย่อมเหมือนกัน คือ อยากได้ไก่ที่เก่งและครบเครื่อง แต่จะพัฒนาอย่างไรให้ได้ไก่ที่เก่งและครบเครื่องอย่างที่เราต้องการ บางท่านทุนหนาอาจจะเริ่มจากสายดีสายดังแล้วนำมาพัฒนาต่อ แต่กับบางท่านที่ทุนไม่หนาแต่ก็อยากพัฒนาเช่นกันต้องทำอย่างไร จึงจะทำให้การพัฒนาไม่หยุดลง การพัฒนาต่อยอดจากสิ่งที่เรามีอยู่ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการเพาะพัฒนาไก่ชนสายพันธุ์พม่าเพื่อการต่อยอด ไก่ที่เป็นสายดังเกิดขึ้นมากมายเกือบทุกสัปดาห์เราไม่จำเป็นต้องไปตามเก็บทุกตัวก็ได้ แต่ถ้าสนใจอยากได้สายดังก็ให้เลือกสักตัวที่เราชอบที่สุด และแน่นอนว่าสายดังก็ต้องมาคู่กับราคาที่สูง ถ้าอยากได้สายดังแต่ราคาถูกก็อาจจะมีแต่จะไม่ใช่มาจากแม่หลัก และจะได้ของจริงหรือไม่ก็ไม่สามารถการันตีได้ ถ้าหากได้ของดีของแท้การพัฒนาให้ถึงดวงดาวก็จะสามารถทำได้ง่าย แต่ถ้าหากเราจะพัฒนาจากสิ่งที่เรามีอยู่ก็จะทำให้เราลดด้านค่าใช้จ่ายลงได้ ถึงแม้ว่าอาจจะต้องเพิ่มระยะเวลาในการพัฒนาขึ้นมาอีกหน่อย เช่น ถ้าหากว่ามีไก่พม่ายืนตีหน้าหงอนอยู่เป็นไก่ที่แข้งคมใช้ได้แต่เหลี่ยมตีอาจจะยังไม่มาก ซึ่งก็สามารถนำมาพัฒนาต่อได้อีก อาจจะเอาไก่ทางเหนือที่มีแข้งหน้ามาเข้า หรือถ้าลีลาไม่มาก็อาจจะนำไก่พม่าลีลามาเข้าอีก เช่น ม้าล่อ หรือไก่หลุดลอดถอดถอย เพื่อเพิ่มลีลาชั้นเชิง เราอย่าพอใจในสิ่งที่เรามี เพราะถ้าเราพอใจในสิ่งที่มีการพัฒนามันจะไม่เกิด เราต้องหาสิ่งที่เราขาดมาเติม หากเราคิดว่าเขาเราดีแล้ว ไก่เราเก่งแล้ว ไม่จำเป็นต้องนำอะไรมาใส่การพัฒนามันก็จะไม่เกิด แต่คนอื่นๆเขาพัฒนากันไปเรื่อยๆไม่หยุดนิ่ง ไก่ที่เขาตีแพงมาแล้วเขายังพัฒนาชั้นลูกให้เก่งขึ้นกว่าชั้นพ่อขึ้นไปอีก เพื่อที่เขาจะได้ตีแพงขึ้นกว่าเดิมอีก เขาจึงบอกว่าไก่ชนอย่าหยุดพัฒนา หากเราไม่หยุดและพัฒนาต่อไปเรื่อยๆเราก็จะได้ไก่ที่เก่งกว่าเดิม ไก่ที่ครบเครื่องกว่าเดิม ถึงแม้ว่าจุดเริ่มต้นของเราอาจจะไม่ได้เริ่มจากสายที่ดังมาก่อน แต่เราเอาจุดแข็งที่มีอยู่บวกกับจุดเด่นที่นำมาเติม […]
คนเลี้ยงไก่หลายๆท่านอาจจะเคยเจอไก่ชนที่เลี้ยงไว้ จากที่หน้าแดงอยู่ดีๆก็หน้าซีด แล้วผ่านไปสักพักใหญ่ก็หน้าแดงกลับมา แบบนี้ไก่เขามีอาการผิดปกติอะไรหรือเปล่า ซึ่งคำตอบก็แน่นอนว่า ไก่มีความผิดปกติอย่างแน่นอน ซึ่งสาเหตุของความผิดปกตินี้หลักๆแล้วก็อาจจะเกิดจากสองสาเหตุนี้ คือ เกิดจากไก่มีพยาธิในทางเดินอาหาร ไก่ที่มีอาการเดี๋ยวหน้าซีดเดี๋ยวหน้าแดงนั้น สาเหตุหนึ่งก็อาจจะเกิดจากที่ไก่เขามีพยาธิในระบบทางเดินอาหาร พยาธินี้อาจจะไปดูดกินสารอาหารต่างในร่างกายไก่แล้วทำให้เม็ดเลือดแดงของเขาลดลงจึงทำให้ไก่หน้าซีด วิธีแก้ไข ก็ยาฆ่าพยาธิสำหรับไก่ ถ้าเป็นไก่ที่ปล่อยฝูงก็ให้ยาฆ่าพยาธิแบบผงมาโรยผสมกับอาหารให้เขากิน ถ้าเป็นไก่ที่ครอบสุ่มก็สามารถป้อนยาเม็ดได้เลย แต่ไม่จำเป็นต้องถ่ายยาเดี๋ยวร่างกายไก่จะโทรมได้ และหลังจากที่ให้กินยาฆ่าพยาธิไปแล้ว ก็ควรให้ยาบำรุงเลือดให้กับเขาด้วยเพื่อเสริมสร้างเม็ดเลือดให้ดีขึ้น เกิดจากตับของไก่มีภาวะผิดปกติ การที่ไก่มีอาการหน้าซีดก็อาจจะเกิดจากตับของเขามีปัญหาก็ได้ เพราะตับมีหน้าที่กรองสารต่างๆที่เข้ามาสู่ร่างกาย ถ้าหากว่าตับมีการทำงานหนักหรือทำงานผิดปกติก็จะส่งผลออกมาทางร่างกาย สารต่างๆที่ว่านี้ก็อาจจะเป็นพวกยาเลี้ยง ยาโด๊ปต่างๆที่เราให้เขากินตอนที่ไปตี หรือยาจำพวกแก้อักเสบ แก้ปวดที่ให้เขาระหว่างยก ยิ่งตีลากหลายอันยาที่ให้ก็เยอะตามด้วย เมื่อร่างกายเขาได้รับเข้าไปแล้วไม่สามารถสลายได้และเกิดสะสมในตับ จึงทำให้ตับทำงานหนักขึ้นหรืออาจจะทำงานผิดปกติไปจากเดิม จึงทำให้ร่างกายแสดงอาการออกมา ซึ่งเราจะสามารถสังเกตได้จากสีหน้าของเขา แต่อาการแบบนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับไก่ชนทุกตัว จะเป็นเฉพาะบางตัวที่ร่างกายอ่อนแอเท่านั้น วิธีแก้ไข เมื่อไก่เริ่มมีอาการที่คาดว่าตับน่าจะมีปัญหาก็ลองให้ยาวิตามินที่ช่วยในการดูดซึม หรืออาจจะเป็นอาหารเสริมหรือวิตามินที่บำรุงตับ ล้างสารพิษในตับ นำมาให้ไก่กินหลังจากนั้นก็ปล่อยให้ไก่ได้เดินในที่กว้างมีดินให้เขี่ยมีหญ้าให้จิกกิน อย่าขังเขาไว้แต่ในสุ่มอย่างเดียว แล้วไก่ก็จะค่อยๆฟื้นตัวกับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง […]
ในแต่ละฤดูกาลที่สภาพอากาศมีความแตกต่างกัน คนเลี้ยงไก่ชนก็ต้องรู้จักที่จะต้องปรับเปลี่ยนการเลี้ยงให้เข้ากับสภาพอากาศกันด้วย ไม่ใช่ว่าจะอากาศแบบไหนก็ยังคงเลี้ยงอยู่แบบเดิมทั้งปี ทั้งนี้ก็เพื่อให้ไก่นั้นไม่เกิดการเจ็บป่วยให้เขาได้มีกำลังพร้อมสู้ในทุกสภาะอากาศ ซึ่งวิธีการเลี้ยงไก่ออกชนตามฤดูกาลต่างๆก็มีข้อแนะนำดังนี้ หน้าร้อน ในการเลี้ยงไก่ออกชนในหน้าร้อนนั้นการเช็ดน้ำควรที่จะใช้น้ำเย็นธรรมดาเช็ดให้เปียกจะดีกว่า แต่ไม่ใช่น้ำที่แช่เย็นหรือแช่น้ำแข็ง เป็นน้ำที่ออกจากก๊อกหรือตักในตุ่ม เพราะอากาศมันร้อนถ้าไปใช้น้ำอุ่นอาบก็อาจจะทำให้ไก่ร้อนในได้ การตากแดดก็อย่าให้ถึงหอบเดี๋ยวไก่จะไม่มีกำลัง ร่างกายเขาจะโทรมได้ ก่อนการออกกำลังกายก็เช่นกันอย่าให้เขาออกนานจนหอบ ส่วนเรื่องของอาหารก็ให้ลดเรื่องของสมุนไพรลง เพราะสมุนไพรที่ให้ไก่กินนั้นส่วนมากจะมีสรรพคุณที่ร้อน ถ้าให้กินเยอะอาจจะทำให้ไก่ร้อนในท้องเสียได้ ควรที่จะเปลี่ยนเป็นพวกผักผลไม้ที่ให้ความเย็นจะดีกว่า เช่น แตงกวา มะเขือเทศแดง ผักกาด ก่อนนอนถ้าร้อนมากก็อาจจะลูบน้ำบางๆสักหน่อยเพื่อคลายร้อนให้เขาด้วยก็ได้ หน้าฝน หากเป็นช่วงที่ฝนตกชุกอากาศก็จะมีความชื้นมากน้ำที่อาบก็ควรจะเป็นน้ำอุ่น หรือจะเป็นน้ำต้มสมุนไพรก็ได้ ไม่ต้องเช็ดทั้งตัวเช็ดหมาดๆตามหน้าลำคอกล้ามเนื้อพอสดชื่น แล้วนำไปออกกำลังกาย อาจจะเป็นวิ่งสุ่ม วิ่งจาน โดดบ่อ เพื่อให้ตัวแห้ง เพราะบางทีแดดอาจจะไม่พอ หรืออาจจะใช้ไดร์เป่าผมช่วยก็ได้แต่อย่าเอาไปใกล้ผิวเขา ผิวเขาจะสุกเอาได้ ให้เป่าไกลๆพออุ่นขนแห้ง จากนั้นก็นำมากินข้าว ป้อนสมุนไพรสร้างความอบอุ่นได้ แล้วปล่อยให้อยู่ในลู่ทั้งวันให้เขาได้เดินได้กระโดดเอง หน้าหนาว อากาศจะเย็นอาบน้ำก็ควรที่จะใช้น้ำอุ่นและให้กินยาสมุนไพรเยอะกว่าเดิมเพื่อเพิ่มความอบอุ่น เช่น […]
ไก่ชนพม่าเป็นสายพันธุ์ที่มีหลากหลายสไตล์หลากหลายเชิงชนทั้งพม่าหน้าหงอน พม่าโยกล่าง พม่าถอย พม่าเดินจิ้มตี พม่าม้าล่อ มีทั้งม้าล่อสั้น ม้าล่อยาว ม้าล่อสั้นสลับยาว พม่ารำวง ซึ่งคนที่ชอบพม่าก็สามารถเลือกไก่สไตล์ที่ตนเองชื่นชอบได้ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ไหนก็เป็นไก่ที่เก่งได้เช่นกัน และถ้าหากเมื่อถึงเวลาแข่งขันหากเรามีโอกาสทราบเชิงชนของฝ่ายตรงข้ามเราต้องเลือกไก่เชิงไหนเพื่อให้มันเข้าทางกับเชิงชนของไก่เรา ถ้าหากว่าเราเลือกไก่ที่มีเชิงเข้าทางเราโอกาสที่จชนะก็มีสูง เวลาเปรียบไก่หาคู่หากคู่ต่อสู้เป็นไก่ใหม่โอกาสที่เราจะทราบว่าเขาเป็นไก่เชิงไหนมีน้อยมาก ต้องอาศัยประสบการณ์ในการมองอย่างเดียว แต่ถ้าเป็นไก่ที่เคยมีไฟท์มาแล้วและเป็นไก่ที่มีคนสนใจเยอะก็อาจจะมีคลิปออกมาให้ได้เห็นกันบ้าง และเราก็สามารถทราบว่าเขาเป็นไก่พม่าเชิงไหนเข้ากับไก่เราหรือไม่ตามสไตล์ดังนี้ ไก่พม่าหน้าหงอนจะชอบตีไก่พม่าโยกล่าง เพราะไก่หน้าหงอนจะยืนเฝ้าตีแต่ไก่โยกล่างจะโยกมุดใต้ท้องใต้ปีกถ้าโยกดีปากไวก็อาจจะได้ตีบ่อย แต่ถ้าไก่หน้าหงอนปากไวด้วยจะได้เปรียบแค่เริ่มจิกก็จะมีแผลแล้วเมื่อจิกตีบ่อยๆเข้าพม่าโยกล่างก็จะเริ่มเสียเปรียบ แต่ถ้าหน้าหงอนปากช้าก็อาจจะเสียเปรียบโยกล่างได้ ไก่พม่าโยกล่างหลุดลอดจะชอบตีไก่พม่าเดินจิ้ม เพราะลีลาที่โยกล่างหลุดลอดตัวเดินเดินจิ้ม ทำให้ตัวเดินจิ้มอาจจะจิ้มไม่ค่อยถูกได้ พม่าโยกล่างก็มีโอกาสจิกตามคางตามหูหรือตา ถ้าเป็นไก่ปากไวและแข้งดีโอกาชนะมีสูง ไก่พม่าเดินจิ้มตีชอบตีไก่พม่าไก่ถอยโยกเปิดคาง เพราะไก่พม่าถอยโยกแล้วเปิดคางเป็นลีลาที่เปิดโอกาสให้ไก่เดินจิ้มเข้าหาได้ง่าย ไก่พม่าถอยชอบตีไก่พม่าม้าล่อ เพราะไก่พม่าถอยเขามีจังหวะดักเตะไม่ชอบวิ่งตาม ม้าล่ออยากวิ่งก็วิ่งไปแต่พม่าถอยจะรอดักเตะ แต่ถ้าเจอกับจิ้มตีมักจะตีไม่ทัน ไก่พม่าม้าล่อชอบตีไก่พม่าหน้าหงอน เพราะไก่พม่าหน้าหงอนมัวแต่รอจิกถ้าวิ่งตามม้าล่อแล้วม้าล่อหันกลับมาก็จะโดนตีทันที ม้าล่อจะไม่รอจังหวะตีหันกลับมาก็พร้อมตีแต่หน้าหงอนรอจิกก่อนค่อยเตะอาจจะทำให้ไม่ทันม้าล่อได้ แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่เสมอไปที่ตัวชอบตีจะสามารถเอาชนะได้ก็ขึ้นอยู่กับโอกาสและจังหวะต่างๆด้วย ใครมีโอกาสมีช่องและเร็วกว่าก็อาจจะได้เปรียบและอาจชนะได้ในที่สุด
ไก่ชนพม่าถือว่าเป็นไก่ที่ได้รับความนิยมกันอย่างมากมายในปัจจุบันนี้ ด้วยชั้นเชิงลีลาที่หลากหลายสามารถเลือกเล่นตามที่ชอบได้ และในปัจจุบันนี้ก็มีการพัฒนาไก่พม่าที่เป็นลูกผสมให้มีความครบเครื่องมากขึ้น ทั้งความเก่ง ความคม ทั้งเรื่องของหัวจิตหัวใจ จึงมีไก่เก่งที่สามารถชนแสนชนล้านเกิดขึ้นมากมาย แต่หากว่าใครที่ยังติดอยู่กับไก่พม่าเลือดร้อยก็ต้องลองคิดกันใหม่ ไก่พม่าเลือดร้อยอาจจะมีความเก่งแต่แน่นอนว่าเขาไม่ครบเครื่องอย่างแน่นอน และอีกอย่างคือไก่พม่าเลือดร้อยสมัยนี้หายากเข้าไปทุกทีแล้ว ที่ต้องบอกให้คนที่สนใจไก่พม่าเลือดร้อยให้ลองคิดกันใหม่นั่นก็เพราะว่า หากนำไก่พม่าเลือดร้อยมาเล่นเขาอาจจะเก่ง แข้งคม แต่โครงสร้างเขาเล็ก และบางตัวหัวจิตหัวใจเขายังไม่ดีก็มี ถ้าจะเลือกเล่นไก่พม่าควรที่จะเลือกเล่นพม่าเลือดผสมจะดีกว่า เพราะเขาผ่านการพัฒนามาแล้วทั้งพัฒนาเรื่องของสายเลือด พัฒนาเรื่องของหัวใจ พัฒนาเรื่องของโครงสร้าง จะได้ไก่พม่าที่มีโครงสร้างใหญ่ขึ้น ได้ความแข็งแกร่งอดทนมากขึ้น ได้ความคมของแข้งที่ลึกขึ้น ไม่อยากให้ไปยึดติดกับคำว่าเลือดร้อย เลือดผสมที่เก่งๆทุกวันนี้มีเยอะมากอยู่ที่ว่าจะเลือกเล่นสายไหน เก่งมากครบเครื่องมากราคาก็สูงมากเพราะกว่าจะพัฒนามาได้เก่งครบเครื่องก็ใช้เวลานานเหมือนกัน ถ้าหากว่าเจอไก่สไตล์ที่ชอบแต่สู้ราคาตัวเขาไม่ไหวก็ยังมาทางเลือกคือลูกๆของเขาก็ได้ นำแบบสูตรสำเร็จมาเริ่มต้นจะดีกว่านำสูตรที่ยังไม่ได้ปรุงแต่งมาแล้วมาทำเอง กว่าจะรู้ว่ากลมกล่อมก็ใช้เวลาไปหลายปี เมื่อได้ตัวที่เขาพัฒนามาดีแล้วมาเลี้ยงการพัฒนาต่อยอดก็จะเร็วขึ้น ในปัจจุบันนี้ไก่พม่าเลือดผสมสามารถหาซื้อกันได้ง่ายมากๆแล้ว มีหลากซุ้มหลายฟาร์มในบ้านเราที่เขาเพาะเลี้ยงกัน มีหลากหลายสไตล์ให้ทุกท่านได้เลือกตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็นหน่าหงอนแข้งคมปากไว ม้าล่อวิ่งดีๆเก่งๆแข้งคมมีทั้งล่อสั้น ล่อยาว ล่อแบบรำวง พม่าถอยโยกยิง พม่าเดินเสิร์ฟ ยืนเสิร์ฟ พม่าที่สามารถต่อกลอนกับป่าก๋อยได้ก็มีมากมาย เหล่านี้ทุกคนสามารถเลือกหาตามที่ชอบได้ […]
ไก่ชนทุกตัวมีความเก่งในตัวเองเหมือนกันทุกตัว แต่ในการแข่งขันจะต้องมีเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นฝ่ายชนะ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับโอกาสว่าตอนนั้นจะเป็นของใคร ใครที่จะหาจังหวะทำได้ก่อนก็ชนะไป สำหรับไก่ตัวที่แพ้แล้วเจ้าของชอบในฝีไม้ลายมืออยู่อยากจะนำมาทำเป็นพ่อพันธุ์ สามารถทำได้หรือเปล่า ซึ่งคำตอบนั้นก็ขึ้นอยู่กับเหตุผลของการแพ้ว่าเขาแพ้แบบไหน ไก่ที่แพ้ก็มีหลายสาเหตุถ้าไก่เขาสู้แบบสุดความสามารถของเขาแล้ว สู้จนถึงที่สุดแต่ก็สู้ไม่ได้ แบบนี้ถือว่าหัวจิตหัวใจเขาดีมาก มีหัวใจเป็นนักสู้ ถึงแม้เขาจะแพ้แต่ก็ต้องเข้าใจว่าเหนือฟ้าย่อมมีฟ้า เกมส์กีฬาจะต้องมีผู้ชนะเพียงผู้เดียวเท่านั้น เราเก่งแต่ก็อาจมีตัวที่เก่งกว่าเรา วันก่อนเราชนะแต่วันนี้เราอาจจะไปแพ้ได้ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่สำคัญต้องดูที่เรื่องของหัวใจต่างหาก ถ้าไก่ตัวนั้นเก่งมีใจสู้แต่แพ้หากอยากนำไปพัฒนาต่อยอดก็สามารถทำได้เลย รับรองว่าไม่เสียเวลาพัฒนากันอย่างแน่นอน แต่ไก่ที่ไม่ควรนำไปพัฒนาต่อยอดหรือนำไปทำพ่อพันธุ์นั่นก็คือ ไก่ที่ตอนซ้อมมีความเก่งทุกอย่าง สมบูรณ์พร้อมทุกด้าน นำไปเปรียบก็ไม่ได้เสียเปรียบคู่แข่งเลยหรือสูสีกับคู่แข่ง แต่เมื่อถึงเวลาแข่งจริงเจอฝ่ายตรงข้ามตีแล้วเจ็บเข้าหน่อยก็เริ่มออกอาการกลัว หวาดระแวง ไม่อยากสู้ไก่ สู้ไม่ถึงที่สุด ในที่สุดแล้วก็ยอมแพ้ไปแบบง่ายๆ ไก่แบบนี้ถึงจะเก่งแค่ไหนก็ให้คัดทิ้งไปได้เลยอย่าไปเสียดาย ถึงแม้ว่าจะนำไปฟิตซ้อมมาใหม่ก็จะเป็นเหมือนเดิม นั่นเพราะจิตใจเขาไม่ดีแล้ว ใจไม่สู้แล้ว อย่าฝืนนำมาเลี้ยงอีกจะเสียเวลาเปล่า และอย่านำไปทำพ่อพันธุ์เพราะลูกๆของเขาก็จะมีจิตใจเช่นเดียวกันกับเขา มันเป็นการส่งต่อทางพันธุกรรมพ่อแม่เป็นอย่างไรลูกก็จะเป็นอย่างนั้น อย่าเสียดายจะทำให้เสียทั้งเวลาเสียทั้งค่าใช้จ่ายด้วยให้คัดทิ้งไปเลย ไก่ชนความเก่ง ความแข็งแกร่ง สามารถสร้างหรือพัฒนากันได้ แต่ทางด้านจิตใจถ้าไม่ดีมันก็พัฒนากันยาก การเลือกไก่อย่ามองที่ความเก่งเพียงอย่างเดียว ให้มองที่จิตใจเป็นหลักด้วย […]
หลายท่านอาจสงสัยกันว่าแม่ไก่ที่อายุเริ่มเยอะแล้วยังควรนำมาทำแม่พันธุ์ต่อดีไหม และลูกที่เกิดจากแม่ที่แก่แล้วจะยังคงเก่งเหมือนเดิมหรือเปล่า ซึ่งข้อสงสัยเหล่านี้มือเก่าเก๋าประสบการณ์อาจจะไม่ต้องอธิบายมาก แต่สำหรับมือใหม่อาจจะยังไม่มั่นใจ วันนี้มาคลายข้อสงสัยกัน แม่ไก่ถึงแม้เขาจะมีอายุเยอะแล้วแต่ถ้าเขาเคยจ่ายลูกแบบไหนก็จะยังจ่ายลูกเหมือนเดิม เคยให้ลูกเก่งอย่างไรก็ยังคงเก่งอยู่แบบนั้น แต่ก็จะมีบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิมในร่างกายของแม่ไก่ ซึ่งก็เหมือนกับคนเมื่ออายุมากขึ้นร่างกายก็จะเริ่มเปลี่ยนไป ซึ่งสิ่งที่จะเปลี่ยนไปของแม่ไก่ที่อายุเยอะนั่นก็คือ เปลือกไข่ที่มาจากแม่ไก่อายุเยอะจะบางกว่าเดิม เพราะแม่ไก่เขาไข่มาแล้วหลายรุ่นแต่ละรุ่นนั้นก็ไข่หลายฟอง จึงทำให้ร่างกายของเขาสูญเสียแคลเซียมไปมาก และการดูดซึมแคลเซียมของร่างกายเขาก็ลดลง จึงทำให้แม้ว่าจะบำรุงเขาอย่างไรเปลือกไข่ก็ยังบางเหมือนเดิม เมื่อเปลือกไข่บางก็จะทำให้ไข่แตกง่าย แม่ไก่ขึ้นไปกกขึ้นไปนอนทับก็ทำให้ไข่แตกในรังเยอะขึ้น ทำให้อัตราการฟักของลูกไก่นั้นลดลงด้วยเช่นกัน ลูกไก่ที่มาจากแม่แก่ส่วนมากจะไม่ค่อยแข็งแรง เพราะด้วยร่างกายของแม่ไก่ที่ระบบต่างๆในร่างกายเริ่มเสื่อมลง การดูดซึมสารอาหารก็จะไม่เต็มที่เหมือนเดิม จึงส่งผลต่อลูกไก่ที่ฟักออกมา ทำให้ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเลี้ยงค่อนข้างยาก เกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย บางตัวเมื่อทำวัคซีนก็อาจจะแพ้วัคซีนตายได้ ลูกไก่ที่เกิดจากแม่แก่ผิวหนังจะเปื่อยยุ่ยง่าย ลูกไก่จากแม่แก่เมื่อโตเป็นหนุ่มเป็นสาวผิวหนังของเขาจะค่อนข้างบางกว่าปกติ เมื่อโดนตีก็จะแตกง่าย ฉีกง่าย เห่อง่าย และน้ำขนก็ไม่สวยไม่เงา บางตัวขนฟูขนตั้งก็มี ซึ่งสาเหตุนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอะไร และไม่ใช่แค่แม่ไก่แก่เท่านั้นที่จ่ายลูกมาแล้วผิวบางกว่าปกติ พ่อไก่ที่แก่ก็จ่ายลูกผิวบางกว่าปกติเช่นกัน ฉะนั้นแล้วปัญหาของแม่ไก่แก่จึงไม่ได้อยู่ที่ความเก่งของลูกไก่ เขายังสามารถจ่ายลูกได้เก่งเหมือนเดิม เพราะความเก่งนั้นส่งผ่านทางพันธุกรรมทางสายเลือดอยู่แล้ว แต่ปัญหาของแม่ไก่แก่จะเป็นเรื่องของสุขภาพกันมากกว่า เพราะร่างกายเริ่มเสื่อมโทรมทำให้รับสารอาหารได้ไม่เพียงพอ จึงมีผลกับลูกไก่ที่จะออกมานั่นเอง ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับผู้เลี้ยงแล้วว่าแม่ไก่ที่แก่ยังจะให้เขาจ่ายลูกต่อหรือควรหยุดให้เขาได้พัก ก็ต้องดูตามสภาพร่างกายเขาต่อไป
ไก่หนุ่มโดยเฉพาะไก่ชนพม่านั้นเมื่ออายุเข้า 7 เดือน เขาก็จะเริ่มสู้ไก่บ้างแล้ว บางท่านเห็นว่าไก่ 7 เดือนเริ่มสู้ไก่ก็ลองนำมาเตะมาซ้อมดู ครั้งแรกเขาอาจจะสู้ไก่ดีแต่ครั้งที่สองหรือสามเขากลับเกิดดีดไก่ขึ้นมา ออกอาการไม่อยากสู้ไก่ แล้วแบบนี้เราควรที่จะนำเขามาเลี้ยงต่อหรือควรคัดทิ้งไป ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจต้องมาดูที่เหตุผลกันก่อนว่าเขาดีดไก่เพราะสาเหตุใด ไก่ที่มีอายุเท่ากันแต่ความพร้อมเขาก็อาจจะไม่เท่ากัน บางตัว 7 เดือนสู้ไก่แล้วก็สู้ตลอด แต่บางตัวเริ่มแรกสู้แต่จู่ๆก็กลัวไม่สู้อีก นั่นอาจจะเป็นเพราะเราอาจจะซ้อมเขาหนักเกินไป หรือ จิตใจเขายังไม่พร้อมเต็มร้อย ไก่ที่ดีดไก่เราต้องให้เวลาและโอกาสกับเขาด้วย ถ้าเขาเกิดดีดไก่ขึ้นมาลองให้เขาพักก่อนสองถึงสามเดือนค่อยลองนำเขากลับมาเลี้ยงมาตีใหม่ ในช่วงที่พักก็ให้เขาอยู่กับไก่ตัวเมียไป ให้เขาได้คุมฝูงฝึกความเป็นผู้นำ ฝึกความกล้า ฝึกจิตใจให้รู้จักปกป้องตัวอื่นซึ่งก็อาจจะช่วยให้จิตใจเขาดีขึ้นได้ แต่ถ้าเขายังดีดไก่อีกก็แสดงว่าจิตใจเขาไม่สู้แล้วแบบนี้ให้คัดทิ้งไปเลย อย่าไปเสียดายถ้ามัวแต่เสียดายมันจะทำให้เสียเวลา เสียทั้งค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงด้วย ถึงแม้ว่าเขาอาจจะกลับมาเล่นได้แต่ก็มีโอกาสที่จะดีดไก่อีกได้ เขาอาจจะกลายเป็นไก่สองใจสู้อยู่ดีๆก็ยอมแพ้ไปง่ายๆ สู้ไปหาไก่ที่มีจิตใจดีตัวอื่นมาเลี้ยงแทนจะดีกว่า การที่จะดูว่าเขาจะเป็นไก่จิตใจดีหรือไม่ก็ให้ดูที่เหล่ากอของเขา พ่อแม่หรือคู่เกิดมีจิตใจดีหรือเปล่าแบบนี้จะทำให้ไม่เสียเวลาในการเลี้ยง แต่ไก่หนุ่มบางตัวแรกๆใจเขาอาจจะยังไม่สู้ ดีดไก่ แต่เมื่ออายุดีขึ้นจิตใจเขาก็ดีขึ้นตามก็มีซึ่งก็ต้องให้เวลาและโอกาสให้เขาด้วย ในการเลี้ยงไก่หนุ่มอย่าพึ่งให้เขาไปอยู่ใกล้ไก่ที่แก่กว่า ถึงแม้ว่าเขาจะตีเก่งขนาดไหนเมื่อเจอไก่แก่กว่ากระแทกสุ่มใส่เขาก็อาจเกิดอาการกลัวได้ ต้องเลี้ยงให้เขาอยู่ใกล้กับไก่รุ่นเดียวกัน และการฝึกการซ้อมไก่หนุ่มจะต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปอย่าพึ่งเลี้ยงแบบมือหนัก ถ้าหากเลี้ยงหรือซ้อมหนักเกินไปเมื่อเขาเหนื่อยก็อาจจะท้อไม่อยากสู้ เพราะเขาไม่เคยโดนตีเจ็บมาก่อน ให้ค่อยๆเพิ่มความเจ็บของเขาขึ้นที่ละนิด […]